Abu Dhabi the Luxury Sand

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Wednesday, October 30, 2019 - 17:39

เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากธุรกิจน้ำมันไหลหลั่งเข้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นดั่งมนต์วิเศษที่ทำให้เสกทุกสิ่งสรรหามาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตึกระฟ้าสีเงินดูเหมือนต้นไม้ที่เติบโตขึ้นจากทะเลทรายอันแห้งแล้ง
 
มหานครอาบูดาบี
 
หากไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเองคงนึกไม่ออกว่ามนุษย์จะสามารถสร้างทุกสิ่งสรรพที่ปรารถนาขึ้นมาได้ แม้รอบด้านจะมีเพียงทะเลทรายและน้ำเค็มของอ่าวเปอร์เซีย ลอนดอน นิวยอร์ก ปารีส และเมืองใหญ่ทั่วโลก ต้องใช้เวลานานนับร้อยปีกว่าจะพัฒนามาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่อาบูดาบีใช้เวลาเพียงสามทศวรรษ เท่านั้นก็สามารถก้าวขึ้นมายืนเคียงบ่าเผยโฉมหน้าอันเจิดจรัสไม่แพ้มหานครใดในโลก
 
อาหารชั้นเยี่ยมที่เสิร์ฟในบิวสิเนสคลาส
 
ที่นั่งในชั้นบิสิเนสคลาสของสายการบินเอทิฮัดปรนเปรอเราด้วยโลกส่วนตัวอันเงียบสงบ ผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดื่มยกเลม่อนมิ้นต์มาเสิร์ฟเรียกความสดชื่นได้ทันที ที่ตื่นจากนิทรารมณ์อันแสนหวานราวกับได้หลับบนเตียงนุ่มที่คุ้นเคย เมื่อสิบชั่วโมงก่อนเราออกเดินทางจากมหานครริมอ่าวไทย แต่ตอนนี้เมื่อเพ่งพินิจผ่านหน้าต่างลงไปมหานครบนเกาะรูปร่างคล้ายตัวที (T) ดูสวยสะดุดตาด้วยถนนตัดกันเป็นตาราง บรรจุคฤหาสน์หลังโตและสิ่งก่อสร้างกรุกระจกรูปทรงล้ำสมัยสะท้อนแดดส่งประกายสีเงินยวง แซมแทรกด้วยสีเขียวของต้นไม้ นี่สินะคือดินแดนโอเอซิสที่ถูกสร้างขึ้นกลางทะเลทรายด้วยน้ำมือมนุษย์
 
โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส อาบูดาบี
 
เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากธุรกิจน้ำมันไหลหลั่งเข้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นดั่งมนต์วิเศษที่ทำให้เสกทุกสิ่งสรรหามาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตึกระฟ้าสีเงินดูเหมือนต้นไม้ที่เติบโตขึ้นจากทะเลทรายอันแห้งแล้ง ห้องพักอันแสนสบายของโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส อาบูดาบี เผยวิวหาดคอร์นิช (Corniche Beach) หาดทรายขาวดูสวยงามเมื่อมีทะเลเปอร์เซียสีฟ้าอมเขียวอยู่เคียงคู่ ร่มชายหาดปักเรียงเป็นระเบียบ มองจากมุมสูงดูเหมือนลายกราฟฟิก มองไกลออกไปอีกนิด อัล มาริน่า (Al Marina) ตั้งโดดเด่นในอ้อมกอดของผืนทะเล เกาะฝีมือมนุษย์สร้าง ที่ตั้งของมาริน่ามอลล์และหมู่บ้านโบราณจำลอง Heritage Village วิวเรียบง่ายแต่ดึงดูดจนไม่อยากละสายตา ถ้าไม่มีเสียงโทรศัพท์เรียกให้ลงไปจิบชายามบ่ายที่ Crytal Lounge
 
เค้กสำหรับชายามบ่าย
 
แสงบ่ายลอดผ่านม่านบางขับให้ Crytal Lounge อุ่นด้วยบรรยากาศเคลือบสีทองอ่อน โซฟา อาร์มแชร์ ทุกอย่างสะท้อนรสนิยมและความหรูหราของอาบูดาบี ชาร้อนหอมกรุ่นจิบคู่กับเวลเวทเค็กสีแดงสด สลับกับพูดคุยเรื่องโปรแกรมท่องเที่ยว เราเลือกใช้บริการของ Hala Abu Dhabi บริษัทนำเที่ยวในเครือสายการ บินเอทิฮัด เพราะสะดวกและสามารถจัดโปรแกรมได้เหมาะสมกับช่วงเวลา Stop Over หนึ่งวันครึ่งของเรา ของว่างมื้อบ่ายจบปุ๊บ เราก็เดินทางไปชมศูนย์นวัตกรรมสายการบินเอทิฮัด (Etihad Innovation Centre) เป็นที่แรก
 
จากโถงตอนรับประตูอัตโนมัติเปิดออกพาเราเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ทางเดินยาวนำเราไปพบกับห้องโดยสาร จำลองของเครื่องบินทั้งแบบโบอิ้ง 787 และแบบแอร์บัส เอ380 ทุกกระเบียดนิ้วสวยงามอลังการเหมือน เครื่องบินจริง แต่ที่เห็นแล้วถึงกับร้องว้าวคือ ชั้นโดยสาร “เดอะเรสซิเดนซ์” ในเครื่องแอร์บัส เอ380 อพาทเมนท์ลอยฟ้าสุดหรูตั้งอยู่ด้านหน้าสุดบริเวณหัวเครื่องบิน มีเพียงผู้โดยสารคนพิเศษ เท่านั้นที่สามารถใช้บริการทุกสิ่งอำนวยควสะดวกในชั้นนี้ได้ ทั้งห้องรับรองพร้อมมินิบาร์ ห้องพักผ่อนตกแต่งด้วยโซฟาหุ้มหนังพอลโทนาเฟราแบบเดียวกับรถเฟอร์รารี่ ห้องนอนเตียงคู่ ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำในตัว ฯลฯ ตลอดการเดินทางคุณจะได้รับการปรนเปรอในทุกสิ่งที่ปรารถนา ขอเพียงเอ่ยปากบอกบัตเลอร์ส่วนตัว ซึ่งคอยบริการเฉพาะผู้โดยสารชั้นเดอะเรสซิเดนซ์เช่นคุณเท่านั้น สำหรับการเดินทางระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่เช่นนี้มีสนนราคาเงินบาทอยู่ที่เจ็ดหลัก
 
ศูนย์นวัตกรรมไม่เพียงแต่เป็นโชว์รูมของสุดยอดห้องโดยสาร แต่ยังเป็นสถานที่อบรมด้านความ ปลอดภัยให้กับลูกเรือ และเป็นห้องวิจัยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อันทำให้สายการบินเอทิฮัดเป็นผู้นำด้านธุรกิจ การบินอย่างไร้กังขา และก็ถือเป็นโอกาสดีมากที่เรามาในฐานะสื่อมวลชน เพราะผู้ที่ได้รับเชิญโดยสายการ บินเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าชมศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้
 
อาบูดาบีมีระเบียบแบบแผนและดูยิ่งใหญ่
 
หากเปรียบดูไบเป็นหญิงสาวเปรี้ยว บุคลิกโฉบเฉี่ยว หัวสมัยใหม่ ใช้เงินเก่ง อาบูดาบีก็เป็นหญิงสาวมาดมั่น สุขุม รสนิยมสูง และใช้เงินเก่งเช่นกัน ด้วยฐานะเมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงทำให้ทุกอย่างในอาบูดาบีมีระเบียบแบบแผนและดูยิ่งใหญ่ ถนนหนทางเรียบกริ๊บสวยงามสมฐานะเมืองแห่งมหาเศรษฐี บ้านเรือนธรรมดาของผู้คนที่นี่แทบจะเรียกได้ว่า เป็นตึกขนาดย่อม ส่วนบ้านไหนร่ำรวยหน่อยก็มีรั้วรอบขอบชิดดูแล้วเหมือนบ้านผู้้ร่ำรวยในเบเวอร์ลี ฮิลส์ เบื้องหลังรั้วสูงคือบ้านหลายหลังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพราะพ่อบ้านหนึ่งท่านนั้นสามารถมีศรีภรรยาได้สี่ คนตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ฉะนั่นเมื่อภรรยาเบอร์หนึ่งได้กระเป๋าแอร์เมส ภรรยาเบอร์สอง สาม สี่ก็มีแอร์เมสไว้หิ้วเดินตลาด เช่นกัน
 
เคยสงสัยเหมือนกันว่าระหว่างดูไบกับอาบูดาบีใครจะมั่งคั่งกว่า หากมองด้วยตาทั้งสองเมืองดูรวยเคียงบ่าเคียงใหล่กัน แต่ในความจริงนั้น เมื่อปี ค.ศ. 2009 ดูไบต้องกู้หนี้ยืมสินอาบูดาบีมาสามแสนกว่าล้านบาท เพราะใช้เงินไปกับการสร้างเมืองอย่างรวดเร็วและเกินตัว ซึ่งปัจจุบันดูไบก็ยังเป็นหนี้อยู่ ส่วนอาบูดาบีมีโครงการอลังการล้านแปดเช่นกัน เพียงแต่เป็นการวางแผนพัฒนาในระยะยาว โดยมีวิสัยทัศน์ของผู้นำอย่าง เชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน (Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan) เจ้าผู้ครองนครอาบูดาบี และประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเข็มทิศนำทาง
 
Manarat Al Saadiyat
 
การวางแผนทำให้สามารถสร้างเมืองที่ยิ่งใหญ่อย่างมีทิศทาง และโฉมหน้าของอาบูดาบีในอนาคต ก็ถูกจำลองไว้ให้ชม ณ Manarat Al Saadiyat ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะซาดิยัต (Saadiyat Island) เกาะแห่งอนาคตที่จะเป็นสถานที่ตั้งของเมืองใหม่อันเพียบพร้อมด้วยหมู่บ้านหรู สนามกอล์ฟ เอ็กซ์คลูซีฟ บีชคลับ ร้านอาหารระดับโลก โรงแรมมากดาว แต่ที่ทำให้เราตาโตอยากเห็นโฉมหน้าเกาะตอนพัฒนาเสร็จในปี 2020 คือ เหล่าพิพิธภัณฑ์ที่พร้อมใจมารวมตัวกันอยู่ที่นี่! Zayed National Museum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติรวบรวมเรื่องราวจากอดีตจนถึงปัจจุบันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายใต้อาคารสูงเสียดฟ้าที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากปีกและลีลาพุ่งโฉบของนกเหยี่ยว, Louvre Abu Dhabi ที่สุดของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเลอค่าจากกรุงปารีสในอาคารทรงโดมกลางทะเล, Guggenheim Abu Dhabi พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยไฉไลไม่แพ้ต้นกำเนิด ณ กรุงนิวยอร์ก และจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งหมดเป็นผลงานออกแบบของสถาปนิกระดับพระกาฬ อาทิ Foster+PartnersJean Nouvel, และ Frank Gehry
 
No.57 Boutique Cafe
 
การกินข้าวนอกบ้านเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่หิวเราจะมีรายชื่อของร้านอาหารเป็น ร้อยให้เลือกจากกูเกิ้ล แต่แทบทั้งหมดคือร้านอาหารที่อยู่ตามโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ทุกร้านหากมาอยู่ในไทย ก็เหมาะยิ่งสำหรับมื้อพิเศษ แต่สำหรับคนที่นี่มันคือร้านอาหารปกติของมื้อธรรมดา เราเลยตกลงกันว่าจะหาร้าน ที่ดูดีมีคอนเซ็ปต์ อาหารไม่หนักเครื่องเทศจ๋า และสนนราคาไม่ฉีกกระเป๋า จากหลายร้อยร้านบนหน้ากูเกิ้ล No.57 Boutique Cafe ดูเข้าตากว่าร้านอื่นตรงที่มีไอเดียต้นกำเนิดต่อยอดมาจากป็อบอัพคาเฟ่ The Dinner Club by No.57 ของสองนักบริหาร Buthaina Al Mazrui และ Alamira Noor Bani Hashim ที่เคยเสกพื้นที่ก่อสร้างให้กลายเป็นสถานที่ดินเนอร์สุดเจ๋ง เปลี่ยนห้องว่างในศูนย์ประชุมให้เป็นโรงแรมบูทีค หรือแม้กระทั่งรังสรรค์ปิกนิกปาร์ตี้แสนเก๋ในตลาดปลา!
 
อาหารจานเรียกน้ำย่อยที่สดชื่นชุ่มฉ่ำ
 
ด้วยคอนเซ็ปต์แบบ Mysterious Supper Club ถนนทางเข้าร้านจึงต้องผ่านไซต์ก่อสร้าง ซึ่งเจ้าของร้านคงไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะร้านอยู่ในพื้นที่พัฒนาใหม่ Al Bateen Harbour บรรยากาศโดยรอบแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านอาหารตั้งอยู่ได้ แต่ไม่นานนักเราก็พบกับทางสว่าง เพราะหลังตึกที่ยังไม่เสร็จคืออพาทเม้นท์ริมอ่าวที่ตั้งของ No.57 Boutique Cafe ตัวร้านกรุกระจกใสเผยให้เห็นด้านในที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่เท่ด้วยสีขาว เทา ดำ โต๊ะไม้โอ๊ค และเขากวาง อาหารที่เราสั่งก็ล้วนแล้วแต่มาจากคำแนะนำของบริกรในชุดดำ แล้วก็ไม่ผิดหวัง Deep Fried Mac & Cheese อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของชีสและมักโรนีที่สุกพอดีแบบอัลเดนเต้ (al dente) นำไปคลุกเคล้ากับเกล็ดขนมปังแล้วทอดเป็นก้อนทรงลูกเต๋า กินคู่กับซอสผักโขมหรือซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะ พาให้น้ำย่อยพรั่งพรูกรูกันออกมาสมชื่อจานเรียกน้ำย่อย ตามมาด้วยจานหลักอย่าง Chiken Milanese เนื้ออกไก่ไร้กระดูกหมักเครื่องเทศคลุกเคล้าเกล็ดขนมปังละเอียดทอดในกระทะจนเป็นสีเหลืองทอง หม่ำเคียงคู่กับเส้นเปนเน่ (Penne) อีกหนึ่งจานหลักคือ No.57 Cheese Burger เนื้อบดหอมกรุ่นย่างพอดีแบบ ยังมีน้ำชุ่มกัดนุ่มทุกคำตามด้วยรสเค็มของชีสตัดด้วยรสเปรี้ยวของแตงกวาดอง จบมื้อแบบอิ่มแปร้แม่ชม้อย ระหว่างทางกลับโรงแรมถนนหนทางดูเงียบเชียบ ไม่พลุกพล่านทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง ด้วยความสงสัยเลยถามไกด์ว่าทำไมจึงรักสงบกันขนาดนี้ คำตอบที่ได้ใช่ว่าคนที่นี่รักสงบ แต่มันยังไม่ถึงเวลา ดึกกว่านี้เหล่าเศรษฐีน้อยใหญ่จะควงสาว ใส่เกียร์ ควบซุปเปอร์คาร์ พากันออกมาปาร์ตี้ตามเอ็กซ์คลูซีฟคลับ ส่วนเราก็กลับโรงแรมกันตามระเบียบ
 
อิทผาลัม ผลไม้ที่มากในอาดูดาบี
 
ไม่ว่าจะไปประเทศไหนสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ เดินเที่ยวตลาด สำหรับที่นี่เรียกว่าซูค (Souq) ตอนแรกวาดภาพไว้ในใจว่าจะเป็นตลาดเก่าเอ็กซอติกสุดพลัง แต่ที่จริงแล้วมันคือร้านของฝาก ที่ตั้งเรียงรายหลายเจ้า และทุกเจ้าขายสินค้าชนิดเดียวกันนั้นคือ อินผลัม แม้ว่าจะผิดหวังกับรูปโฉมเล็กน้อย แต่พอก้าวเข้าร้านไป อาณาจักรผลไม้ทะเลทรายไม่ได้ทำให้เราผิดหวังกับรสชาติ เราเองก็เพิ่งได้รู้ว่าอินผลัมนั้นมี มากมายหลายพันธุ์ มีรสชาติต่างกัน แต่เดิมนั้นชาวเบดูอิน (Beduin) นิยมกินเพราะให้พลังงานและน้ำตาลสูง เหมาะสำหรับชีวิตกลางทะเลทรายที่หาของกินยาก แต่ปัจจุบันเป็นเหมือนความบันเทิงในยามจิบชา อินผลัมถูกดัดแปลงให้กลายเป็นของว่างหลายรูปแบบ ทั้งยัดไส้อัลมอน เคลือบช็อกโกแลต เคลือบถั่วพิตาชิโอ อบแห้งมาก แห้งน้อย เกรดสูง เกรดกลาง ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วให้ความรู้สึกเวลารับประทานต่างกัน เราเลยสนุกกับ การชิมและได้ติดไม้ติดมือมาคนละสองสามห่อ
 
Sheikh Zayed Grand Mosque
 
ไม่ว่าจะเป็นหญิงจากชนชาติไหนหรือศาสนาใดก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น เมื่อเข้าชมมัสยิด เชค ซายิด (Sheikh Zayed Grand Mosque) ทุกคนต้องสวมอาบายะ (Abaya) หรือชุดคลุมยาวแบบมุสลิม ส่วนชายต้องแต่งกายสุภาพและสวมกางเกงขาวยาวเท่านั้น อาคารสีขาวขนาดใหญ่มหึมา กว้าง 290 เมตร ยาว 420 เมตร ยอดโดม 82 ยอด หอสุเหร่าสี่หอ สูง 107 เมตร พื้นที่ทั้งหมดสามารถจุคนสำหรับทำพิธีละหมาด พร้อมกันกว่า 40,000 คน สร้างด้วยวัสดุธรรมชาติทั้งหินอ่อน หินอัญมณี ทองคำ คริสตัล และเซรามิกคุณภาพสูง นำเข้าจากอิตาลี เยอรมนี อังกฤษ กรีซ นิวซีแลด์ อินเดีย โมร็อกโค ปากีสถาน ตุรกี จีน มาเลเซีย อิหร่าน และจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เอง ซึ่งสะท้อนความตั้งใจของ เชค ซายิด บิน สุลตาน อัลนะฮ์ยาน ที่ต้องการให้มัสยิดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์ ความยิ่งใหญ่คือ ตัวแทนสะท้อนแนวคิดของพระองค์ที่ว่า “ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่เกินความพยายามของมนุษย์” และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจให้สถานที่นี้เป็นดังคำตรัส “May the god rest his soul” แม้ตัวพระองค์เองจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพอันสมบูรณ์ของสิ่งที่พระองค์สร้าง แต่ร่างของพระองค์ยังคงบรรทม สงบนิ่งในสุสานข้างวิหารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระอัลเลาะห์
 
 
 
แม้ว่าตั้งอยู่ห่างจากจุดที่เรายืนเป็นร้อยเมตร ลานกว้างและอาคารทรงโดมขนาดมหึมา มีพลังมหาศาลจนกดตัวเราให้เล็กลงเท่าผงธุลี สีขาวบริสุทธิ์ของพื้นหินอ่อนประดับโมเสกจากหินธรรมชาติ สะท้อนแดดจนต้องหยีตา ซุ้มประตูสูงเปิดให้เราเข้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์ โคมแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ 7 ช่อ ส่งประกายขับห้องโถงให้อาบด้วยสีทอง ผู้คนกลุ่มเล็กๆ กำลังนั่งอ่านคัมภีร์อัลกรุอานบนพื้นพรมนุ่ม ไกด์บอกว่าพรมที่ปูห้องโถงนี้ออกแบบโดย Dr. Ali Khaliqi ศิลปินและช่างทอพรมชาวอิหร่าน เขาใช้เวลาออกแบบ 8 เดือน ทอด้วยมือ 12 เดือนโดยใช้ช่างทอทั้งหมด 1,200 คน และใช้เวลาประกอบ พรมเข้าด้วยกันอีก 4 เดือน เพื่อคลุมปิดพื้นห้องโถงสวดมนต์ขนาด 5,700 ตารางเมตร อันที่จริงยังมีรายละเอียด ปลีกย่อยอีกมากมายที่ไม่อาจบรรยายหมด จึงขออนุญาตนักอ่านติดตามต่อที่ www.szgmc.ae/en ทั้งหมดที่ได้เห็นทำให้ไม่อาจปฏิเสธว่านี่คือผลงานจากความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ และรักหมดใจกับสถาปัตยกรรมอิสลามแห่งศตวรรษ 
 
4 wheel drive adventure
 
หวิววาบในช่องท้องทุกคนที่รถโฟร์วีลส์คันใหญ่ขับทิ้งตัวไถลลงจากเนินทรายสูงหลายสิบเมตร ก่อนมาก็ไม่คิดว่านั่งรถตะลุยทะเลทรายจะสร้างความรู้สึกเสียวซ่านได้ราวกับราวกับนั่งรถไฟเหาะ ยิ่งเราแสดงอาการมากเท่าไหร่คนขับก็ยิ่งได้ใจเร่งเครื่องขึ้นไปสุดเนินแล้วทิ่มหัวรถลงมาตีนเนินแบบลืมเบรก บางช่วงแทนที่จะลงตรงๆ ก็หมุนพวงมาลัยไถลเอาข้างรถลงแล้วหันมายิ้มสะใจที่ชาวเอเชียสามคนนั่งตัวเกร็ง ช่วงแรกสนุกดีแต่นั่งนานๆ เริ่มเวียนหัว ยังไม่ทันจะเอ่ยปากบอกให้หยุด เราก็มาถึงจุดพักชมวิวอาทิตย์ตก เนินทรายกว้างไกล พื้นทรายเป็นลอนด้วยแรงลม เกิดเป็นภาพสวยงามยามแสงเย็นสีส้มจัดสาดทับ ไม้ยืนต้น ตายกลายเป็นฉากหลังสุดเท่ในความเวิ้งว้างของทะเลทรายอัลวัตบา (Al Wathba) ในเขตเมืองอัลเอน (Al Ain)
 
ตลาดค้าอูฐแห่งสุดท้ายของสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์
 
อันที่จริงแล้วเมืองอัลเอนเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่เราไม่อยากพลาด เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ ทางประวัติศาสตร์หลายร้อยปี อาทิ ป้อมปราการ ตลาดโบราณ ตลาดค้าอูฐแห่งสุดท้ายของสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ และมีเขตโอเอซิส (Oasis City) ที่ครองมงกุฏมรดกโลกของยูเนสโก แต่เวลาอันจำกัดทำให้เราพอใจกับ Desert Sunset Drive & BBQ เพราะเท่านี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าและหาโอกาสสัมผัสได้ยาก
 
เพลิดเพลินกับการขี่อูฐของนักท่องเที่ยว
 
หลังพระอาทิตย์ตก อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงฤดูหนาว ด้านหน้าแคมป์แบบอาหรับ นักท่องเที่ยวกำลังสนุกกับกิจกรรมขี่อูฐ มาถึงนี่มีหรือที่เราจะพลาด ความรู้สึกเวลาขี่มันช่างโยกเยกและไม่มั่นคง เพื่อนที่มาด้วยกันยืนกดชัตเตอร์อยู่ด้านล่างอย่างเมามัน ส่วนเราก็พยายามนั่งให้ดูดีที่สุด จ้องไปยังเนินทรายมืดและท้องฟ้าที่หมดแสง แต่ยังไม่ทันจะเท่ดีก็หมดรอบ อูฐที่สูงเกือบสองเมตรทรุดขาหน้า ฮวบทำเอาใจหายวาบ นี่คือท่ามาตรฐานสำหรับการลงจากหลังอูฐเท่านั้นเอง
 
ปาร์ตี้ยามค่ำกลางทะเลทราย
 
มื้อเย็นแบบบุฟเฟต์ในแคมป์กลางทะเลทราย กรุ่นลิ่นอาหารอาหรับ ตอนแรกคิดว่าจะกินไม่ได้ แต่พอได้ลองอาหารแต่ละอย่างก็ไม่ได้มีกลิ่นเครื่องเทศรุนแรงเกินทน อาจจะน้อยกว่าอาหารอินเดียด้วยซ้ำ ไล่ชิมไปทีละอย่างจนสรุปได้ว่าสิ่งที่โปรดปรานที่สุดคือเนื้อแพะ เนื้อไก่เสียบไม้ย่าง แป้งพิตา (Pita) และฮัมมุส (Hammus) อิ่มหนำดีก็ได้เวลาของโชว์ระบำหน้าท้อง สาวสวยในชุดแดงสดเริ่มร่ายรำด้วยท่วงท่าอันยั่วยวน โปรยสายตามากเสน่ห์ แจกความเซ็กซี่ให้ให้ผู้ชมแบบไม่มีหวง จังหวะดนตรีเร่งเร้าจังหวะสะโพกให้โยกย้าย กล้ามเนื้อหน้าท้องของเธอหดเกร็งและปล่อยคลายกลายเป็นลูกคลื่น แต่ดูไม่ก็เหมือนลอนทรายที่ไหวกระเพื่อม นักดนตรีเร่งจังหวะเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น จากร่ายรำเปลี่ยนเป็นหมุนตัวอย่างต่อเนื่อง ชายกระโปรงกรุยกราย สะบัดพริ้ว เครื่องประดับระยับสะท้อนแสง เธอยิ่งหมุนเร็วแรงตามเสียงปรบมือของผู้ชม พลันดนตรีก็จบลง  ปล่อยคนดูสุขสันต์กับภาพนางสวรรค์แห่งทะเลทราย
 
ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ เช่นเดียวกับช่วงเวลาสั้นๆ ในอาบูดาบีของเรา ความสุขไล่จากจุดเริ่ม ต้นสู่จุดสูงสุดแล้วพลันจบลง แต่นี่ก็เป็นชนวนจุดแรงปรารถนาให้เรามองโอกาสกลับมาเยือนมหานครกลาง ทะเลทรายแห่งนี้อีกครา
 

When to go

 Between April and May or from September to October.

Where to Stay

- The St. Regis Abu Dhabi  | www.stregisabudhabi.com

What to Eat

- Fresh, local ingredients in a sophisticated setting. From the creators of The Dinner Club by No.57 Boutique Cafe | www.no57.co

Why to Heritage Village.

- to experience the traditional aspects of the desert way of life, and immerse yourself in the time capsule that brings to life a souk, a mosque and an encampment from pre-modernized Abu Dhabi./ http://www.torath.ae/Phone:+971 2 681 4455

Experiences Creator

- Hala Abu Dhabi | www.halaabudhabi.com หรือ www.etihad.com | Phone. +971-5990-700

How to Get There

สายการบินเอทิฮัด บริการเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ - อาบูดาบี วันละ 4 เที่ยวบิน

www.etihad.com

 
Special Thanks
Etihad Airways

travelbaradmin's picture

ABOUT THE AUTHOR

POSTED BY travelbaradmin | Wednesday, October 30, 2019 - 17:39


admintator for web Travellerbar.com


RELATED FEED

POSTED BY travelbaradmin | Thursday, May 18, 2023 - 09:38

วิหารคอมออมโบและเอ็ดฟู ตามเส้นทางลุ่มแม่น้ำไนล์


LEAVE A COMMENT

POSTED BY travelbaradmin | Thursday, May 04, 2023 - 16:06

Royal River Organic Farm


LEAVE A COMMENT

POSTED BY travelbaradmin | Tuesday, March 14, 2023 - 18:41

Bürgenstock Hotels and Resort Lake Lucerne


LEAVE A COMMENT