POSTED BY dithichaya@gmail.com | Thursday, September 12, 2019 - 17:44
อลงกรณ์ ฟาร์ม และรีสอร์ท อยู่บนพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ซึ่งเป็นอำเภอที่พื้นที่มากที่สุดในจังหวัดเพชรบุรี ขนาด 2500 ตารางกิโลเมตรเป็นป่าต้นน้ำเพชรบุรี ที่ไหลมาจากแก่งกระจานซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ผ่านอำเภอแก่งกระจานลงสู่ อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และออกสู่ทะเลที่อำเภอบ้านแหลม และด้วยพื้นที่บางส่วนเป็นผืนป่าและเทือกเขา จึงมีคนอาศัยอยู่ไม่หนาแน่นนักโดยตั้งอยู่ไม่ห่างจากทะเลอันดามันที่อยู่ด้านซ้ายและมีอ่าวไทยประกบทางด้านขวาทั้งได้การรับรองว่าเป็นพื้นที่อากาศมีโอโซนมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีพื้นที่มากที่สุดของประเทศไทย คือประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ 1.8 ล้านไร่ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ป่าตะวันตกของไทยเป็นผืนป่าติดต่อกับประเทศพม่า (The Western Forest Complex) จึงเป็นผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดและยังเป็นเขตการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพหลักของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ครอบคลุมพื้นที่ 18,730 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตคุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิประเทศของป่าตะวันตกมีตั้งแต่ที่ราบลุ่มจนถึงเทือกเขาของที่ราบสูงของไทยและเนินเขาเทือกเขาตะนาวศรี เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์และสัตว์ป่า และพื้นที่ป่าแห่งนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
บนพื้นที่ 90 ไร่ของ อลงกรณ์ ฟาร์ม และรีสอร์ท ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 25 ซึ่งเป็นถนนยุทธศาสตร์ตะวันตกที่ทำเป็นถนน 4 เลนคู่ขนานกับ ถ.เพชรเกษม ชายแดนตะวันตกไปถึงชายเขาที่เป็นป่าชุมชน ในอำเภอแก่งกระจาน พัฒนามาจากไร่เสื่อมโทรมที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาหลายปีดีดัก นั้นคือ ไร่สับประรด โดยที่ท่านเจ้าของได้มีความมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นขึ้นให้เป็นพื้นที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ ได้มีการสร้างแหล่งน้ำให้ความชุ่มชื้นกับพื้นที่ แล้วทำฟาร์ม มีการปลูกเมล่อนญี่ปุ่นที่ให้รสหวานหอม และเลี้ยงกุ้งล็อบสเตอร์น้ำจืดหรือกุ้งก้ามกามแดงในคอนโด คือใส่กล่องเล็กๆ กล่องละตัว เพื่อความสะดวกในการดูแล และได้สร้างรีสอร์ทเพื่อการพักผ่อนใน 3 สไตล์ คือ สไตล์ถ้ำ บ้านต้นไม้ และลอฟท์ โดยฟูมฟักปลูกต้นไม้นานาชนิดจนบริเวณโดยรอบชุ่มชื้นร่มเย็นน่ามาพักยิ่งนักราคาค่าที่พักเริ่มต้นที่ 1,500 – 2,500 บาท
ทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ฐานการเรียนรู้ศาสตร์พระราชา ต้นไม้แต่ละต้นจะมีป้ายเขียนบอกชื่อไว้รวมทั้งคิวอาร์โค้ชที่สแกนด้วยมือถือ จะรู้จักต้นไม้ต้นนั้นทันทีพร้อมรายละเอียด โดยร่วมกับองค์การสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติทำการสำรวจชื่อต้นไม้ รวมประมาณ 256 ต้น ส่วนที่ทำป้ายติดตามต้นไม้นั้นเริ่มทำได้ประมาณ 100 กว่าต้นแล้ว
ที่นี่จึงเหมาะกับคนที่ต้องการได้มาพักผ่อน ได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติ ทั้งมากับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนใกล้ชิด มาเติมเต็มด้วยการพักผ่อนสบายๆ ในธรรมชาติ ได้ใช้ชีวิตกลางแจ้ง เล่นน้ำ สไลด์เดอร์ ถีบจักรยานเที่ยวในบริเวณฟาร์มและรีสอร์ท ขับ ATV หรือร้องคาราโอเกะ ก็มีพร้อมบริการ ในอนาคตยังมีโครงการแบ่งที่ให้เช่าปลูกพืชผักแล้วเก็บเกี่ยวเอาผลผลิตกลับบ้าน เรียกว่าเป็นฟาร์มย่อยๆ ที่อยู่เรียงรายติดต่อกัน ซึ่งจะมีคนช่วยดูแลรดน้ำให้ทุกวัน ใครเช่าก็จะติดชื่อฟาร์มคนนั้นไป
ABOUT THE AUTHOR
Travel Center
Travelers to create, review and capture content for travel.
LEAVE A COMMENT