กฎเหล็กปรามผู้โดยสาร

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Saturday, December 21, 2019 - 11:55

สายการบินเอาจริง...ออกกฎเหล็กปรามผู้โดยสารเกเร

ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ คือการที่พนักงานในส่วนปฎิบัติการภาคบริการ นับตั้งแต่สนามบิน จนถึงภายในห้องโดยสารของเครื่องบิน...ต่างต้องเผชิญหน้ากับผู้โดยสาร ซึ่งไม่สนใจกฎกติกา โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของการบิน

Cr.pic.:  Suhyeon Choi on Unsplash

ที่ผ่านมาผู้โดยสารจอมเกเร ทั้งพฤติกรรมเอะอะโวยวาย สร้างความกระอักกระอ่วนต่อผู้ให้บริการสายการบินต่างๆมานับสิบปี ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง...ก่อนหน้านี้สายการบินต่างๆ พยายามไม่เผชิญหน้า หรือปะทะกับผู้โดยสารดื้อรั้นเหล่านี้ ด้วยเหตุผลที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ตนเอง

สถานะการณ์จึงทวีความรุนแรง ทั้งมีความถี่เพิ่มมากขึ้น

Cr.pic.: Tim Gouw on Unsplash

ดังเช่นเหตุการณ์เมื่อปีก่อน มีผู้โดยสารชาวจีน ได้แสดงกิริยาอันไม่เหมาะสมในห้องผู้โดยสาร ในเที่ยวบินที่กำลังจะเดินทางออกจากประเทศไทย จึงเป็นสาเหตุให้เกิดความล่าช้าในเที่ยวบินดังกล่าว เมื่อเที่ยวบินนี้ไปถึงยังประเทศจีน ทางการจีนได้เข้าควบคุมตัวผู้โดยสารรายดังกล่าว โดยได้รับข้อกล่าวว่า “ทำให้ประเทศได้รับความอับอายขายหน้า”

อีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดที่กรุงเทพฯเช่นกัน เป็นผู้โดยสารคนไทยอารมณ์ขัน ไปล้อเล่นกับพนักงานบริการในห้องโดยสาร “ว่า...กระเป๋าที่เขานำขึ้นเครื่องบินมาด้วย...มีระเบิด” พนักงานต้อนรับรู้ว่านี่เป็นเรื่องพูดเล่น และพยายามเตือนผู้โดยสารรายนั้น แต่ผู้โดยสารอารมณ์ดียังคงย้ำในคำพูดนั้น...ว่ามันมีระเบิด ความโกลาหลก็เกิดขึ้น เมื่อพนักงานต้อนรับแจ้งต่อนักบิน ที่ 1 ขอให้ระงับการนำเครื่องฯขึ้น เพื่อตรวจค้นหาวัตถุระเบิดก่อน ผู้โดยสารจึงกลายเป็นผู้ต้องหาโดยปริยาย ทำให้การเดินทางในเที่ยวนั้นเกิดความล่าช้านับชั่วโมง

Cr.pic.: JESHOOTS.COM on Unsplash

แม้เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังไม่ใช่เด็กเกเร แต่ก็ก่อความเสียหายต่อธุรกิจการบิน...ปัจจุบัน ปัญหาจากผู้โดยสารในกรณีต่างๆจนเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้า (delay) เฉลี่ย 1 ครั้งต่อทุกๆ 1,053 เที่ยวบิน ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 3 ใน 5 ครั้งก่อปัญหาให้ตารางการบินเกิดความล่าช้า...จากข้อมูลของ IATA ปีพศ.2560

ในปี ค.ศ.2014 มีสมาชิก 22 ประเทศได้ร่วมกันออกกฎหมายใหม่ มีชื่อว่า Montreal Protocal 2014 เพื่อปราบปราม-ทั้งมีบทลงโทษชัดเจน ซึ่งจะทำได้ง่ายขึ้นในการรับมือกับกลุ่มก๊วนจอมป่วนเหล่านี้

Cr.pic.:  Ashim D’Silva on Unsplash

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีความพยายาม โดยหลายประเทศกำหนดให้อนุสัญญาโตเกียวปี คศ.1963 ใช้อำนาจศาลซึ่งเครื่องบินลำนั้นๆได้จดทะเบียนไว้ แต่ยังคงมีความยุ่งยาก ด้วยเหตุการณ์ต่างๆมักไปเกิดยังสนามบินปลายทางหรือระหว่างทางที่เครื่องบินลงจอด แม้จะมีข้อตกลงตามอนุสัญญาโตเกียว ที่ระบุให้ประเทศซึ่งรับจดทะเบียนเครื่องบินลำใดไว้ มีอำนาจทางกฎหมาย สามารถจัดการปัญหาได้เอง...แต่มิใช่เรื่องง่ายเลยในเชิงปฏิบัติ

Montreal Protocal 2014 เป็นกฎหมายว่าด้วยสิทธิและพันธกิจทางการบินฉบับเพิ่มเติม ที่ออกโดยกลุ่มสมาชิก 22 ประเทศ โดยมีไนจีเรียเป็นประเทศสุดท้ายที่ขอเข้าร่วมกลุ่ม ช่วงเวลาที่ผ่านมา 5 ปี เงื่อนไขต่างๆสามารถบรรลุข้อตกลงได้แล้ว ทั้งยังได้กระทำสัตยาบรรณเป็นที่เรียบร้อย...โดยสาระสำคัญ คือความร่วมมือระหว่างกลุ่มสมาชิกทั้ง 22 ประเทศ สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายของประเทศที่เครื่องบินจอดอยู่ ตามขอบเขตเงื่อนไขที่กำหนด

เหมือนสหรัฐอเมริกและสหราชอาณาจักร ที่ใช้กฎหมายนี้มาก่อนแล้ว โดยไม่ต้องปรึกษาหรือขอความเห็นจากต้นทางซึ่งรับจดทะเบียนเครื่องบินไว้

Photo by Grimur Grimsson on Unsplash

ที่สำคัญ...หากเด็กดื้อ หรือจอมเกเร จอมป่วนพวกนี้ เป็นสาเหตุให้การนำเครื่องฯขึ้นบินล่าช้ากว่ากำหนดการ นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาต่างๆที่เสียสติกระทำลงไป...คราวนี้ยังจะต้องใช้ค่าเสียหาย...คือค่าผันแปรในค่าใช้จ่ายที่ทางสนามบินเรียกเก็บกับทางสายกการบินอีก ซึ่งประมาณการว่าอาจถึง 2 แสนเหรียญ เป็นเงินไทยก็ราว 6 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา สายการบินไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายใดได้ ด้วยเหตุของข้อกฎหมายที่ซับซ้อน

ต่อไปนี้...ใครที่เข้าห้องโดยสารแล้ว ยังคงวุ่นวายกับโทรศัพท์ ไม่ยอมปิดแทปเลท คุณมีสิทธิโดนข้อหาขัดขวางการบินได้แบบไม่นึกไม่ฝัน เพราะกลุ่มสมาชิกทั้ง 22 ประเทศจะเอาจริง และไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ในกรณีนี้อีกต่อไป

1 มกราคม 2563 กฎเหล็กนี้จะเริ่มใช้...เด็กดื้อหรือจอมป่วนเวหาได้เจอยาแรงสยบอาการสติแตกแน่

เรื่องโดย anywhere-travels , กิตติ บุษปวนิช ผู้เรียบเรียง

travelbaradmin's picture

ABOUT THE AUTHOR

POSTED BY travelbaradmin | Saturday, December 21, 2019 - 11:55


admintator for web Travellerbar.com