จูดสานสวยผ้าทองามที่บ้านเนินธัมมัง

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Saturday, October 24, 2020 - 03:39

บ้านเนินธัมมัง อยู่ในอำเภอเชียรใหญ่ ทางตอนใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ดั้งเดิมเป็นหมู่บ้านไกลปืนเที่ยง ยากที่จะเข้าถึง ชีวิตของคนที่นี่ต้องต่อสู้ดิ้นรน ต้องผจญกับความผันแปรของธรรมชาติ บางครั้งน้ำท่าอุดมสมบูรณก็รอดตัวไป ในบางปีที่แห้งแล้งก็อดอยากปากแห้ง หลายครั้งมีพายุใหญ่ถาโถมเข้ามาซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักหนาให้กับหมู่บ้านและชาวบ้านเนินธัมมัง

การปลูกข้าวในบ้านเนินธัมมังใช้บริโภคในหมู่บ้าน Photo by Nutto Nataphat Lordidentity

ในปี 2506 บ้านเนินธัมมังโดนหางพายุที่เข้าถล่มแหลมตะลุมพุก ถึงขนาดต้นธัมมังใหญ่ประจำหมู่บ้านหักโค่นลง บ้านธัมมังจึงอยู่ในรายชื่อได้รับการช่วยเหลือเนื่องจากถูกภัยพิบัติ ความเจริญถนนหนทางเริ่มเดินหน้าเข้าหาบ้านธัมมัง มีไฟฟ้าใช้กันทุกครัวเรือน

อาชีพหลักของหมู่บ้านนี้ คือ ทำนาที่ได้ผลผลิตมากินกันในหมู่บ้านเท่านั้น  แต่ก็ต้องซื้อข้าวจากนอกหมู่บ้านเพิ่มเติมทุกปี แต่พวกเขาก็ดูมีความสุข แม้จะต้องทำงานกลางแสงแดดที่แผดกล้าก็มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าอยู่เสมอ เมื่อพ้นหน้านาฝ่ายหญิงก็ต้องทอผ้า สานเสื่อจูด ฝ่ายชายก็ต้องทำหน้าที่หุงหาอาหาร เตรียมสำรับกับข้าวให้พร้อม รอภรรยากลับมากินข้าวพร้อมกันทุกวัน เสื่อจูดนั้นมีการสั่งซื้อจากนอกหมู่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว จึงเป็นหนทางหารายได้อีกทางหนึ่งมาจุนเจือครอบครัว

กระจูดพืชสำคัญในการสานจูด Photo by komkrit Preechachanwate

กระจูด เป็นพืชน้ำที่มีใบเรียวยาวมีเส้นใยที่เหนียว ขึ้นในป่าพรุอันอุดมสมบูรณ์ สามารถเก็บเกี่ยวออกมาได้ตามกำลัง การเข้าไปเก็บกระจูดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  เพราะป่าพรุบางช่วงก็มีน้ำท่วมสูง บางช่วงก็ตื้นเขิน กว่าจะลุยเข้าไปได้ก็ลำบาก วันหนึ่งเข้าไปเก็บก็ได้สักกำ (หมายถึงเก็บมาได้วันละหอบเท่านั้น) มัดแล้วแบกออกมาประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางคืบเดียว การเข้าไปเก็บในป่าพรุเองนั้นใช้เวลามากและลำบาก แต่ก็มีคนที่เก็บออกมาขายกำละ 15 บาท (เมื่อ พ.ศ. 2545)

ตอกจูด Photo by  ntkris

เมื่อได้ตอก(กระจูด)มาแล้ว ตอกแห้งไม่ย้อมสีเรียกสีขาว เมื่อนำไปสานเป็นเสื่อเรียกว่า สาดขาว หากต้องการได้สีสันก็ทำการย้อมสี ตอกที่ได้มาจะมีลักษณะเป็นเส้นกลมๆ ต้องนำมารีดให้เป็นเส้นแบน จากนั้นจึงนำไปสานตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งเดิมมีลวดลายเพียงจับตอกสานสลับไปมาหรือสานขัดลายสอง ซึ่งเป็นการจับตอกสองเส้นสานขัดกัน งานสานสาดขาว หรือสาดสลับสีนั้นไม่ซับซ้อน  ผืนหนึ่งมีความกว้าง 1 ศอกเศษ ความยาว 1 วา หรือ 2 เมตร ชิ้นงานจะนำสาด 2 ผืนมาต่อกันตามยาว เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกนั้นเอง

สาดจูด Photo by SOORACHET KHEAWHOM

ต่อมาศูนย์ศิลปาชีพได้เข้ามาทำโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเนินธัมมัง โดยถ่ายทอดความรู้ให้สามารถนำเอาสาดจูดมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง  จากผืนเสื่อสนนราคา 35 บาท เมื่อมีการพัฒนาเป็นสินค้าต่างๆ ที่มีการออกแบบให้สวยงาม และใช้สอยได้หลากหลาย เช่น ตัดเย็บเป็นกระเป๋า ตะกร้า กล่องทิชชู ถาด ซองเอกสาร ฯลฯ มูลค่าสินค้าได้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

นำสาดจูดมาตัดเย็บเป็นกระเป๋าถือ Photo by Ariyaporn chumkong

เมื่อทำรายได้ดีขึ้นก็มีกำลังใจที่จะทำงานให้มากขึ้น ถึงกับในหน้านาตอนกลางวันทำนา พอกลับไปบ้านก็ทำสาด มีการไปรวมกลุ่มทำที่สำนักงานศูนย์ศิลปาชีพ หรือจะทำอยู่บ้านก็ได้ งานสานจูดไม่ได้เป็นงานหนัก เป็นงานฝีมือที่ต้องประณีตในขั้นตอนการสาน ต้องจับลายหรือเข้าลายให้แน่นด้วยการใช้นิ้วมือดึงลาย ทำอย่างนี้ทุกครั้งกับเสื่อทุกผืน ทำจนข้อนิ้วแข็งแกร่งเลยทีเดียว

นำสาดจูดมาทำเป็นที่ใส่แก้วกาแฟ Photo by Ariyaporn chumkong

ด้วยความมานะพยายามของกลุ่มแม่บ้านบ้านเนินธัมมัง ส่งผลให้เป็นที่กล่าวขานถึงความสำเร็จดังกล่าว ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งไม่ต้องละถิ่นออกไปทำมาหากินไกลในต่างถิ่น ไม่ต้องไปทำงานโรงงาน ซึ่งต้องเปลี่ยนชีวิตและวิถีชีวิตเป็นคนเมือง

ผ้าทอลายพิกุล บ้านเนินธัมมัง Photo by posttoday.com/

งานทอผ้ายังเป็นอีกอาชีพหนึ่งของแม่บ้านเนินธัมมัง คนที่นี่ได้รับการถ่ายทอดวิชาทอผ้าจากเกาะยอ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเสมือนตักศิลาการทอผ้าแห่งแดนทักษิณ ผ้าทอเนินธัมมังจะใช้เส้นสังเคราะห์เป็นหลัก ซื้อเส้นด้ายที่ย้อมมาแล้ว เลือกสีสันตามใจชอบ แต่ยังคงทอผ้าด้วยกี่โบราณ อาจมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาโครงสร้างของกี่ให้แข็งแรงขึ้นด้วยการเสริมเหล็กเข้าไป

ผ้าทอบ้านเนินธัมมัง Photo by DUANGKAMONCHAROENSAK

ลวดลายสีสันก็เดิมๆ มีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เรื่องลวดลายก็ยังเป็นลายยอดนิยมที่ทอสืบต่อกันมา เช่น ลายดอกพิกุล ลายลูกแก้ว และอื่นๆ  งานผ้าทั้งหมดไปทอกันที่ศูนย์ศิลปาชีพ และทางศูนย์จะรับซื้อผ้าทั้งหมดไว้ ส่วนการทอนั้นมี 2 ประเภท คือ ทอด้วยด้ายของศูนย์เมื่อหักค่าด้ายแล้วศิลปาชีพก็จะซื้อถูกลง หากทอผ้าจากด้ายที่ซื้อมาเองก็ได้ราคาแพงขึ้น ผลิตภัณฑ์ผ้าของเนินธัมมังเป็นที่ต้องการของคนในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และคนจากจังหวัดอื่นๆ

ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมังตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 เริ่มต้นมีสมาชิก 11 คน ปัจจุบันมีสมาชิก 500 คน แบ่งงานออกเป็น 3 ประเภท คือ งานแปรรูปผลิตภัณฑ์กระจูด งานทอผ้า และงานปักผ้าด้วยมือ นี่เป็นตัวอย่างของคนสู้ชีวิต ที่ไม่ได้สู้เพื่อความร่ำรวย แต่สู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็งมั่นคงสืบไป

How to go There: จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช เดินทางมุ่งหน้าไปอำเภอฉวาง ราว 28 กิโลเมตร ถึงบ้านบ่อล้อให้เลี้ยวขวาขับตรงไปจะพบป้ายบอกทางไปศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ขับต่อไปประมาณ 9 กิโลเมตรถึงบ้านเนินธัมมัง

To get more information: Facebook: ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง

เกี่ยวกับต้นธัมมัง

ชื่อวิทยาศาสตร์ Litsea Petiolata Hook.f.  อยู่ในวงศ์ LAURACEAE  ชื่ออื่น ชะมัง แมงดาต้น ถิ่นกำเนิด มาลายูและภาคใต้ของไทย

ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-15 เมตร ขนาดทรงพุ่ม 4-6 เมตร ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มรูปกรวยกว้างหรือรูปไข่ เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบ หรือแตกเป็นสะเก็ดเล็กบางๆ และมีรอยด่างสีขาวกระจายทั่วไป มีใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรี กว้าง 6-10 ซม. ยาว 8-12 ซม. ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่ง โคนใบสอบเรียบ ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่นเป็นลอน สีเขียวสดเป็นมัน ผิวใบด้านล่างสีเขียวนวล ก้านใบยาว 0.5-1 ซม. ใบอ่อนสีน้ำตาล อมชมพู มีขนสีเทาละเอียดปกคลุมทั้งสองด้าน

ลักษณะดอก สีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่กิ่งแก่ขนาดเล็ก กระจุกละ 6-8 ดอก ดอกตูมทรงกลม กลีบรวมเรียง 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบสีเขียวรูปช้อนสั้นๆ เกสรเพศผู้12 อัน เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 0.5-0.8 ซม. ออกดอกเดือน ก.พ.-มี.ค. ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงกลมรีหรือรูปไข่ สีเขียวเข้ม เมื่อสุกสีน้ำเงินเข้ม เมล็ดรูปไข่ สีน้ำตาล ติดผลเดือน เม.ย.-มิ.ย. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด พบขึ้นตามป่าโปร่ง ที่ราบเชิงเขาที่มีความชื้นสูง การใช้ประโยชน์ ใบใส่แกงเผ็ด ใบ เปลือกต้นและผลแก่ใช้ตำน้ำพริก ใบอ่อนและดอกอ่อน เป็นผักเหนาะ ยอดอ่อน ลวกจิ้มกินกับน้ำพริก

 

travelbaradmin's picture

ABOUT THE AUTHOR

POSTED BY travelbaradmin | Saturday, October 24, 2020 - 03:39


admintator for web Travellerbar.com


RELATED FEED

POSTED BY travelbaradmin | Tuesday, October 01, 2024 - 14:10

5 สถานที่ในจางเจียเจี้ย ที่เป็นสวรรค์ของผู้รักธรรมชาติ


LEAVE A COMMENT

POSTED BY travelbaradmin | Tuesday, October 01, 2024 - 14:06

5 แหล่งใน Marrakesh หัวใจแห่งโมร็อกโก


LEAVE A COMMENT

POSTED BY travelbaradmin | Tuesday, October 01, 2024 - 14:02

ล่องแพแม่น้ำโฮซูกาวะและสัมผัสประสบการณ์กิโมโน


LEAVE A COMMENT