Anywhere Travels

ภูฏาน ภูสวรรค์ของนักเดินทาง

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Sunday, November 17, 2019 - 13:26

ประเทศภูฏาน ประเทศแห่งขุนเขาที่มีขนาดเล็ก แต่มีความยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศอินเดียกับประเทศจีนมี ภูฏานมีชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า Druk Yul อันหมายถึง "ดินแดนของมังกรสายฟ้า (Land of the Thunder Dragon)" ดินแดนในหลืบเขาแห่งนี้ได้ประกาศก้องให้โลกได้รู้ว่า ขุนเขา สายน้ำ และประเพณีอันงดงามนั้นมีความหมายต่อการดำเนินชิวิตให้มีความสุขได้มากเพียงใด เพราะความสุขมวลรวมของคนทั้งชาตินั้นสำคัญ แม้ภูฏานจะเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 191 แต่กลับเป็นประเทศที่ผู้คนมีความสุขมากกว่าประเทศที่เจริญลำดับต้นๆ ในทางเศรษฐกิจ ในด้านพุทธศาสนา ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ

Nyamey Zampa, Nyamai Zam Footbridge, Paro, Bhutan ภาพถ่ายโดยTanay DedhiaบนUnsplash

เปิดปราการธรรม เมืองพาโร แห่ง Little Buddha

Le Meridien Paro Riverfront ในกรุงพาโร

เมืองพาโร (Paro) อยู่ทางตะวันตกของ ภูฏาน ห่างจากเมืองหลวงทิมพู ประมาณ 53 กิโลเมตร ตัวเมืองพาโรคือฉากที่สวยงามที่สุดของภาพยนตร์สารคดี Little Buddha อันโด่งดังไปทั่วโลก พาโร หรือ Paro Dzong แปลว่า ป้อมปราการแห่งอัญมณี ปรากฏตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำพาโร ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากภูเขาจูมอนฮารี ตัวเมืองตั้งอยู่ในระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 2,280 เมตร อากาศที่เย็นสบาย สถาปัตยกรรมของเมืองที่งดงามตรึงตาตรึงใจ เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นหนึ่งเดียวเชื้อเชิญให้นักเดินทางหลั่งไหลมาสู่เมืองแห่งนี้ ภาพของท้องทุ่งสีสวย ป่าไม้เขียวเต็มภูสูง ตัดกับสีขาวของกำแพงเมือง เติมเสน่ห์ของตัวอาคารแซกแซมด้วยสีสะดุดตาประดับลวดลายไม้แกะ ยิ่งสดใสเมื่อพบเจอกับผู้คนที่สวมใส่เครื่องแต่งกายหลากสีสัน เมืองนี้จึงเปรียบดั่งฉากในภาพยตร์ที่อยากหยุดเวลาไว้ไม่อยากไปไหนเลย

3 สถานที่อัศจรรย์แห่งพาโร

อัศจรรย์งานศิลป์ทรงคุณค่า ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน คืออาคารที่มีสถาปัตยกรรมทรงกลมแปลกตาและงามสง่า ภายในบบรรจุหัวใจของงานศิลป์แห่งภูฏาน ห้องจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ยุคแรกเริ่มของภูฏาน มีเครื่องแต่งกายที่งดงาม ผ้าทอสวยๆ และคัมภีร์โบราณ พระบฏ และต้องไปชมความน่าทึ่งของห้องแสดงแสตมป์ มีแสตมป์กลม แสตมป์ผ้าไหม แสตมป์สามมิติ แสตมป์นูนที่ระลึกในงานพระราชพิธีราชาภิเษก และแสตมป์สามเหลี่ยมรูปเยตี พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน เปิดทำการวันอังคารถึงวันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น. และปิดในวันหยุดนักขัตฤกษ์

อัศจรรย์วัดเก่าวัดคยิจุ (วัดคิชู) ในตำแหน่งเท้าซ้ายของนางยักษ์

วัดคิชู มีตำนานเล่าถึงในสมัยของพระเจ้าซองเซนกัมโปแห่งทิเบต พระองค์ทรงโปรดให้สร้างวัดทั้งหมด 108 แห่ง เพื่อ ตอกอวัยวะ 108 จุดของนางยักษ์ชั่วร้ายตนหนึ่ง ซึ่งนอนตีแผ่ทั่วเทือกเขาหิมาลัย วัดคิชูในพาโรนั้นเป็นตำแหน่งตอกตรึงเท้าซ้ายของนางยักษ์เป็นการสยบฤทธิ์ ปัจจุบันภายในวัดประกอบด้วยโบสถ์ 2 หลัง หลังเก่าได้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าซองเซนกัมโป หลังใหม่สร้างในสมัยพระราชชนนีในกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ภายในวิหารเก่า ชาวบ้านมักนำหินเทอร์ควอยซ์กับหินปะการังสวยๆมาถวาย โดยฝังประดับบนลานพื้นที่สาธุชนเอาไว้กราบสักการะพระพุทธองค์

อัศจรรย์วัดถ้ำเสือ วัดที่สวยที่สุดในโลก

ภาพถ่ายโดยPulak BhagawatiบนUnsplash

วัดทักซัง (Taktshang) วัดสวยบนหน้าผาสูงในตำนาน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินขึ้นไปวัดที่อยู่สูงขึ้นไปเกือบ 800 เมตร นักเดินทางจะนั่งม้าหรือเดินเท้าขึ้นไปข้างบนก็ได้ หากนั่งม้าจะย่นระยะทางได้ประมาณ 60% ของระยะทางทั้งหมด เดินทางแบบไม่ต้องเร่งรีบ หยุดพักเหนื่อยเป็นระยะๆ ชมวิว 360 องศา โพสต์ท่าถ่ายภาพ แต่อย่าเซลฟีเพลินเพราะมีหลายจุดอันตราย การเดินทางต้องผ่านป่าสนอันหนาทึบ จนถึงจุดชมวิวที่สามารถจะมองเห็นวัดทักซังได้ชัดและสวยที่สุด ต่อจากจุดนี้ก็จะเป็นการเดินลงบันได ลงบันได 400 ขั้นและขึ้นบันไดอีก 300 ขั้น ก็จะพบกับประตูทางเข้าวัด แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเอากล้องถ่ายรูปหรือมือถือเข้าไปในวัดได้ กิจกรรมภายในวัดคือการสวดมนต์อย่างสงบ ความงดามระหว่างทางมีทั้งกลิ่นป่าสน หอมๆ อากาศเยือกเย็นแต่แสนสบาย อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิตต้องมาด้วยตนเอง เพราะที่นี่เหมือนสรวงสวรรค์จริงๆ

ตามรอยวิวาห์แสนงาม...ที่พูนาคา

พูนาคาเมืองเล็กๆ ที่มีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของภูฏาน เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงในช่วงฤดูหนาวมานานถึง 300 ปี และมีเหตุการณ์ประวัติศาตร์เกิดขึ้นที่นี่หลายครั้ง ในปี 1907 ใช้เป็นสถานที่จัดราชาภิเษกกษัตริย์องค์แรกของภูฏาน คือ สมเด็จพระราชาธิบดีที่ 1 อูเก็น วังชุก ในปี 1910 ใช้เป็นสถานที่ลงนามสนธิสัญญาพูนาคาระหว่างภูฏานกับอังกฤษ และปี 1988 ใช้เป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีที่ 4 จิกมี ซิงเย วังชุก พูนาคา งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่มีลวดลายและสีสันผสมผสานศิลปะของจีนและอินเดียที่เปี่ยมได้ด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าขานถึงผู้พิทักษ์สี่ทิศ แต่ใครฝันอยากเห็นดอกศรีตรังดอกไม้สีม่วงบานสะพรั่งที่วังพูนาคา ต้องมาเยือนภูฏานในช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนพฤษภาคม สีม่วงคลาสสิคของดอกไม้ตัดกับสีขาวของแนวกำแพงปราการโดดเด่นและสวยสง่า

ทิมพู เมืองหลวงแห่งสรวงสวรรค์

เมืองทิมพู หลวงของประเทศภูฏาน อีกเมืองที่นักเดินทางต้องไม่พลาด ทิมพูเป็นเมืองหลวงที่อยู่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,334 เมตร สิ่งแรกที่ต้องตามหาถ้าเดินทางมาเมืองนี้คือ หนังสือเล่มใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีขนาด 5 x 7 ฟุต (จากการบันทึกโดย Guinness world records ในปี 2007) หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพถ่าย โดย Michael Hawley เก็บไว้ที่ห้องสมุดแห่งชาติภูฏาน นอกจากนี้เมืองทิมพูเป็นจุดไหว้พระเช็คอินที่สูงที่สุดในโลก เพราะเป็นที่ตั้งขององค์หลวงพ่อสัจธรรม พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก หลวงพ่อสัจธรรมมีความสูงถึง 51.5 เมตร สร้างเสร็จในปี 2015 และภายในองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ยังบรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กภายใต้ฐานถึง 125,000 ใครได้มากราบไว้จะพบแต่สันติสุขตลอดไป

ภาพถ่ายโดยPrateek KatyalบนUnsplash

ทุกฉาก ทุกภาพ ทุกสถานที่ของภูฏาน คือธรรมชาติที่ผสมผสานสัจธรรมและแต่งเติมเสน่ห์ของวัฒนธรรม หล่อหลอมให้ภูฏานกลายเป็นเมืองหนึ่งเดียวในโลก ที่รอยยิ้มและความสุขอยู่เหนืออำนาจของทุกสิ่ง

Punakha Suspension Bridge, Punakha, Bhutan ภาพถ่ายโดยFaris MohammedบนUnsplash

https://www.bhutancenter.com/ บริษัทนำเที่ยว

Where to Stay

http://varabhutan.com/

http://www.hhlbhutan.com/the-village-lodge-paro/

http://www.thoriresort.com/

Travel Tips

สกุลเงินของภูฏานเรียกว่านิงูตรัม (Ngultrum) การเตรียมตัวแลกเงินจากประเทศไทยควรแลกเงินรูปีหรือเงินดอลลาร์ไปก่อน จากนั้นค่อยไปเปลี่ยนเป็นเงินนิงูตรัมที่ภูฏาน

ไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศเป็นแบบเดียวกับไทยคือ 230 โวลต์ แต่ตัวปลั๊กจะเป็นขากลม มีทั้งแบบ 2 ขาหรือ 3 ขา

ภูฏานมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (ระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม) ฤดูร้อน (ระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (ระหว่างเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ระหว่างเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) กลางวันอุณหภูมิ 15 – 25 องศาเซลเซียส กลางคืน 5 – 10 องศาเซียล

ชาวภูฏานเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด การเข้าชมสถานที่สำคัญทางศาสนาภายในภูฏานควรแต่งกายให้มิดชิดเพื่อให้เกียรติสถานที่

ภูฏานเป็นประเทศที่อยู่บนภูเขาสูง ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม พบหมอเช็คโรคแพ้ความสูงก่อน และควรออกกำลังกายก่อนเดินทาง

เรื่องโดย อุไรรัตน์ โรจจ์นานนท์