POSTED BY TRAVELBARADMIN | Thursday, May 18, 2023 - 09:38
หลังอาหารเช้าบน Nile Cruise หรือเรือล่องลำน้ำไนล์ ที่เดินทางมาจากเมืองอัสวาน เรือเข้าเทียบท่าที่เมืองคอมออมโบ ที่อยู่ห่างจากกัน 50 กิโลเมตร ก็ได้เวลาทัวร์กันซะที แต่งตัวรัดกุม หมวก แว่นกันแดด ผ้าคลุมเนี่ยะสำคัญมาก เพราะสามารถนำมาคลุมป้องกันความร้อนของแดดที่แผดเผา ยังกันลมที่หอบเอาฝุ่นทรายมาพร้อมกันได้อีกด้วย หลังจากฟังบรรยายแบบรวบรัดแล้ว เราก็ต้องแยกตัวออกมาเพื่อเก็บภาพในมุมสวยและน่าสนใจให้ได้มากที่สุด
เทพโซเบค Sobek ทีมีหัวเป็นจระเข้ และเทพฮอรัส Haroeris เทพที่มีหัวเป็นเหยี่ยว Photo by Dithichaya
คอมออมโบ วิหารแห่งสองเทพเจ้า
เมืองคอมออมโบ (Kom-Ombo) เมืองที่อยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ทางตอนเหนือของเมืองอัสวาน (Aswan) ได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งทองคำ” ด้วยเคยเป็นจุดพักการเดินทางค้าขายทองคำและสินค้าสำคัญที่มาจากนูเบีย ทะเลทรายตะวันออก และทะเลแดง ในอดีต และในปัจจุบันเป็นเมืองที่โดดเด่นทางด้านการเกษตรเนื่องมีการจัดการน้ำที่ดีนั้นเอง
โบราณสถาน วิหารแห่งคอมออมโบในเมืองคอมออบโบนั้น ก็มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของระเทศอียิปต์เป็นวิหาร Ptolemaic อันศักดิ์สิทธิ์ วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กๆ ริมแม่น้ำไนล์ สร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้า 2 พระองค์ คือ เทพโซเบค Sobek ทีมีหัวเป็นจระเข้ เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และเป็นผู้สร้างโลก อีกด้านหนึ่งบูชาเทพฮอรัส Haroeris เทพที่มีหัวเป็นเหยี่ยว เป็นเทพแห่งสงครามและการแพทย์ จึงเรียกขานกันว่าเป็นบ้านจระเข้และปราสาทเหยี่ยว
วิหารแห่ง Kom Ombo สร้างขึ้นภายใต้พระเจ้าปโตเลมีที่ 6 แห่งราชวงศ์ทอเลมีในศตวรรษที่ 2 เป็นเวลา 180 ปี ก่อนคริสต์ศักราช และอาคารถูกเพิ่มเข้ามาอีกภายใต้การปกครองของชาวโรมัน
วิหารนี้มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกับวิหารอื่นๆ มีการวางแบบแผนที่แปลกกว่า ห้องเล็กๆ ภายในวิหาร มีการเก็บมัมมี่จระเข้อยู่ 2 ตัว ตามฝาผนังมีการแกะสลักอักษรภาพที่บรรยายถึงการแพทย์ในสมัยนั้น มีทั้งเครื่องมือผ่าตัด เช่น กรรไกร มีดผ่าตัด และอื่นๆ อีกมาก
การแพทย์สมัยอียิปต์โบราณ Photo by Dithichaya
เอกสารอธิบายเรื่องการแพทย์ของภาพบนผนัง Photo by Dithichaya
ด้านนอกวิหารมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ไม่ไกลนัก ในสมัยโบราณใชในการวัดว่าน้ำสมบูรณ์ดี ก็เป็นเครื่องกำหนดอัตราค่าภาษีอากร และเป็นที่ให้อาหารจระเข้ของพระที่ดูแลวิหารแห่งนี้
การที่วิหารแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นที่ประทับของเทพเจ้าที่กษัตริย์ของพวกเขาอุทิศให้ ดังนั้นชาวอียิปต์จึงมาประกอบพิธีกรรมภายในเพื่อรักษาความสมดุลอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาล แต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในนั้นน่าจะมีเพียงพระเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นสถานที่สำหรับคนทั่วไปที่จจมาถวายเครื่องบูชา และสวดมนต์ภาวนา
ซากมัมมี่ในพิพิธภัณฑ์จระเข้ ใกล้กับวิหารคอมออมโบ Photo by Dithichaya
เมื่อศาสนาคริสต์แผ่ขยายไปทั่วจักรวรรดิเมดิเตอร์เรเนียน ศาสนาอียิปต์แบบดั้งเดิมก็ถูกเข้ายึดครอง ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 4 และ 6 วิหารส่วนใหญ่ถูกทำลายโดยคริสตจักรคอปติก และจนถึงศตวรรษที่ 19 เมื่อความสนใจในอียิปต์วิทยาของชาวยุโรปถึงจุดสูงสุด และวิหารจึงถูกสร้างขึ้นใหม่
Kom Ombo ในวันนี้
วิหารแฝดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์และยังคงความรุ่งโรจน์แม้ว่าจะผ่านการใช้งาน ถูกละเมิด และการบูรณะมานับพันปี คาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในการเดินชมซากวิหารเพื่อชื่นชมงานฝีมือและอักษรอียิปต์โบราณบนเสาที่ออกแบบและสร้างด้วยความสามารถของมนุษย์ จากนั้นเดินต่อไปเพื่อเยี่ยมชมมัมมี่จระเข้ภายในพิพิธภัณฑ์จระเข้ขนาดเล็ก
วัดมีความสวยงามเป็นพิเศษเมื่อต้องแสงจากดวงอาทิตย์ยามเช้าตรู่หรือยามเย็น หินปูนจะสะท้อนแสงเปล่งประกายเตือนให้เรานึกถึงความน่าเกรงขามที่วิหารแห่งนี้จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากผู้มาสักการะในสมัยโบราณ เปิดให้ชมทุกวัน เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดชม
เรือท่องเที่ยวจอดที่ท่าหน้าวิหารคอมออมโบ Photo by Dithichaya
การเดินทางไปยัง วัด Kom Ombo
วัดนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Kom Ombo จึงสามารถพบวัดนี้ได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับการล่องเรือในแม่น้ำไนล์และทัวร์รถมินิบัสระหว่างลักซอร์และอัสวาน รถไฟตู้นอนระหว่างไคโร ลักซอร์ และอัสวานจะจอดที่คอมออมโบด้วย
แผนที่
วิหาร เอ็ดฟู (Edfu)
Edfu เป็นหนึ่งในวิหารอียิปต์โบราณที่โดดเด่นและสมบูรณ์ที่สุด สร้างอุทิศเพื่อการบูชาเทพเจ้าฮอรัส ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ห่างจากวิหารคอมออมโบประมาณ 63 กิโลเมตร จึงสามารถจัดให้อยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวภายในวันเดียวกัน การก่อสร้างเริ่มขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าทอเลมีที่ 3 (246–221 ปีก่อนคริสตกาล) ในปี 237 ก่อนคริสต์ศักราช แล้วเสร็จในรัชสมัยของทอเลมีที่ 12 (80–51 ปีก่อนคริสตกาล) ในปี 57 ก่อนคริสต์ศักราช 180 ปีต่อมา .
วัดยังถูกฝังอยู่ใต้ชั้นของเศษซากจากการตั้งถิ่นฐานเป็นเวลานับพันปี ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งจึงคงอยู่ได้เป็นอย่างดี ในปี 1860 Auguste Mariette นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบและบูรณะส่วนต่างๆ ของวิหาร
นกเหยี่ยวฮอรัสยืนอยู่หน้าเสา ด้านหน้าวิหาร Photo by AXP Photography on Unsplash
วิหารนี้ที่ด้านหน้ามีเสาขนาดใหญ่ 2 ต้นที่แสดงภาพพระเจ้าทอเลมีที่ 12 พิชิตศัตรูและบูชาเทพเจ้า รูปปั้นหินแกรนิตขนาดใหญ่สองรูปของเทพเจ้านกเหยี่ยวฮอรัสยืนอยู่หน้าเสา เมื่อเดินผ่านเสาแล้ว คุณจะเข้าสู่สนาม ระเบียงคตขนาดใหญ่ที่เรียงรายไปด้วยเสาที่ประดับด้วยกลีบบัว
นอกเหนือจากนี้ยังมีห้องโถงไฮโปสไตล์อีกสองห้อง ห้องแรกแสดงให้เห็นรากฐานของวัดที่กษัตริย์กำลังประกอบพิธีกรรม ส่วนห้องที่สองแสดงฉากการเดินทางของฮอรัสในเปลือกไม้อันศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเทพีฮาธอร์ ถัดออกไปคือห้องโถงตามขวางแล้วเป็นวิหารหลัก
The birth house ด้านนอกของกำแพงวิหารอุทิศให้กับการประสูติของเทพเจ้าฮอรัส Photo by Dithichaya
ยอดเสา The birth house /Photo by Dithichaya
วิหารเอ็ดฟูตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ในเอ็ดฟู เมืองนี้เป็นที่รู้จักตามชื่อเทพเจ้าสูงสุดฮอรัส ซึ่งกรีกระบุว่าเป็นอพอลโล เป็นหนึ่งในวิหารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในอียิปต์ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในอาณาจักรทอเลมีกระหว่าง 237 ถึง 57 ปีก่อนคริสตกาล คำจารึกบนผนังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาษา ตำนาน และศาสนาในช่วงยุคเฮเลนิสติกในอียิปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อความอาคารที่จารึกของวัด "ให้รายละเอียดของการก่อสร้าง และยังเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับการตีความในตำนานของวัดแห่งนี้และวัดอื่นๆ ทั้งหมดว่าเป็นเกาะแห่งการสร้างสรรค์" นอกจากนี้ ยังมี "ฉากสำคัญและคำจารึก ของบทละครอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอันเก่าแก่ระหว่างฮอรัสและเซธ"
วิหารแห่งเอ็ดฟูถูกเลิกใช้ในฐานะอนุสรณ์สถานทางศาสนาหลังจากการประหัตประหารคนต่างศาสนาของธีโอโดสิอุส ที่ 1 และคำสั่งห้ามการนมัสการที่ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ในจักรวรรดิโรมันในปี ค.ศ. 391 เช่นเดียวกับที่อื่น ภาพแกะสลักนูนต่ำนูนสูงของวิหารหลายแห่งถูกทำลายโดยสาวกของศาสนาคริสต์ที่เข้ามา เพื่อครอบครองอียิปต์ เพดานสีดำของโถงไฮโปสไตล์ที่เห็นได้ในปัจจุบัน เชื่อว่าเป็นผลมาจากการลอบวางเพลิงที่ตั้งใจทำลายภาพลักษณ์ทางศาสนาที่สมัยนั้นถือว่านอกรีต
บนพื้นที่ผนังที่สูงใหญ่เต็มไปด้วยการบันทึกเรื่องราว Photo by Dithichaya
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา วิหารถูกฝังลึกลงไปถึง 12 เมตร (39 ฟุต) ใต้ทรายทะเลทรายที่ลอยอยู่และชั้นของตะกอนแม่น้ำที่แม่น้ำไนล์ทับถม ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นสร้างบ้านเหนือบริเวณวัดเดิม เมื่อคณะสำรวจชาวฝรั่งเศสระบุตัววัด ในปี 1860 Auguste Mariette นักอียิปต์วิทยาชาวฝรั่งเศสได้เริ่มงานขุดค้น Edfu จากผืนทราย
วิหารเอ็ดฟูเกือบสมบูรณ์และเป็นตัวอย่างที่ดีของวิหารอียิปต์โบราณ ความสำคัญทางโบราณคดีและการอนุรักษ์ในระดับสูงทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอียิปต์ ในปีพ.ศ. 2548 ทางเข้าวัดได้รับการปรับปรุงใหม่ มีการเพิ่มระบบไฟส่องสว่างที่ซับซ้อนในช่วงปลายปี 2549 เพื่อให้เข้าชมตอนกลางคืนได้
แผนที่
How to go there:
หากอยู่ที่เมือง Aswan สามารถซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปได้ ราคาเริ่มต้นสำหรับ 2 คน $300 รวมไกด์ ขับรถยนต์ ภายในเวลา 7 ชั่วโมง สามารถเดินทางแบบกำหนดเองได้เสะดวกสบาย คลิกติดต่อได้ที่นี่
หรือสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวทางเรือจากอัสวานไปยังลักซอร์ จะรวมอยู่ในโปรแกรมแวะให้เที่ยวอยู่แล้ว
Where to stay:
ควรพักโรงแรมในอัสวาน หรือหากเดินทางมากับเรือท่องเที่ยวก็มีห้องพักอยู่แล้ว
Sofitel Legend Old Cataract Aswan
When is the best time to visit:
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมอียิปต์คือระหว่างเดือนตุลาคมถึงเมษายน อุณหภูมิจะเย็นลง แต่คุณยังคงได้รับแสงแดด นี่คือช่วงที่อียิปต์อยู่ในอุณหภูมิที่สบายที่สุด
Which dress to visit :
เสื้อผ้าเบาสบาย ระบายความร้อนได้ดี เสื้อแขนสั้นถึงแขนยาว กระโปรง-กางเกงถึงเข่า หรือยาวเลยเข่า อย่าลืมหมวกกันแดด และผ้าโพกศรีษะสำหรับผู้หญิงที่มีประโยชน์ในการกันแดดและฝุ่นได้ดี
Who to contact with:
หากมีเหตุด่วน หรือเหตุฉุกเฉิน ที่ต้องการคำปรึกษาในประเทศอียิปต์ ดูข้อมูลและติดต่อที่ https://cairo.thaiembassy.org/
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
1. หมู่วิหารฟิเล่ Philae temple complex
2. Abu Simbel Temples in Egypt
3. 10 ประสบการณ์ห้ามพลาดในอัสวาน ประเทศอียิปต์
4. 3 ยุคที่ยิ่งใหญ่แห่งอารยธรรมอียิปต์โบราณ
6. สู่ยุครุ่งเรืองอารยธรรมริมแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์
ABOUT THE AUTHOR
POSTED BY travelbaradmin | Thursday, May 18, 2023 - 09:38
admintator for web Travellerbar.com
LEAVE A COMMENT