สำรวจอ๊อกแลนด์ นิวซีแลนด์

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Sunday, July 14, 2019 - 11:56

วันใดที่ทีม All Black ทีมชาติรักบี้ของนิวซีแลนด์ลงแข่งขัน วันนั้นสายตาหลายล้านคู่ของคนในประเทศต่างมุ่งสู่เกมเดียวกัน โดยเฉพาะก่อนนาทีเปิดศึกจะเริ่ม เสียงตบแขนตบขาแลนลิ้นปลิ้นตาในจังหวะการเต้นปลุกเร้าแบบ Haka ก็ชวนเราขนลุกแทนคู่ต่อสู้ไปด้วย เป็นจังหวะเดียวกันกับเมื่อพันกว่าปีที่แล้วที่ปลุกใจทำให้ชาวเมารีแล่นแคนูชื่อ Waka มาถึงนิวซีแลนด์ทั้งฝั่งเกาะเหนือและเกาะใต้ แดนดินสุดท้ายที่ชาวโพลินีเซียได้ค้นพบและครอบครอง และแม้จะผ่านเวลามาอย่างยาวนานตั้งแต่การขึ้นฝั่งเพื่อตั้งรกรากในปี ค.ศ. 800 แต่ชาวเมารีไม่เคยลืมจุดเริ่มต้นของตนเอง โดยเฉพาะในเมืองที่มีชื่อว่า อ็อกแลนด์ (Auckland)

***จองที่พักใน Auckland

Photo by Artem Verbo 

จากการจัดอันดับ Quality of Living City โดย Mercer.com ประจำปี 2019 นั้น อ็อกแลนด์จัดเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีและน่าอยู่เป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นความลงตัวของในทุกๆ ด้านทั้งคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม อาหาร อุปนิสัยผู้คน ความหลากหลายทางเชื้อชาติ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงของคนที่ชอบชีวิตติดทะเลก็ว่าได้เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรกับจำนวนเรือส่วนตัวหลายพันลำที่จอดเทียบท่ายังอ่าวไวเตมาตา (Waitemata) และอ่าวมานูกัว (Manukau)  โดยเฉพาะที่ท่า Westhaven Marina ก็สามารถจอดเรือยอร์ชได้ถึง 1,400 ลำแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่จะมีคนขนานนามว่า ‘City of Sails’ หรือเมืองแห่งการแล่นเรือใบ

*** บินจากกรุงเทพไปยัง Auckland โดย  Thai Airways และ Qantas Airlines

Photo by Mark Thompson 

การเดินทางสู่อ็อกแลนด์นั้นสามารถบินตรงจากกรุงเทพได้ไม่ยากเพียงราวๆ 11 ชั่วโมง โดยเมื่อคุณเข้าที่พักเรียบร้อยและยังไม่เจ็ตแล็คซะก่อน เราอยากให้คุณเริ่มต้นเที่ยวยังเอกลักษณ์ประจำเมืองนี้ที่ตั้งตระหง่านมากว่า 20 ปีนั่นก็คือ Sky Tower หอคอยระฟ้าสูง 328 เมตร สิ่งปลูกสร้างที่สูงเป็นอันดับหนึ่งในซีกโลกใต้ เปิดให้ขึ้นตั้งแต่ 9.00-22.00 ซึ่งคุณสามารถมองวิวเมืองในแบบ 360 องศาได้ไกลลิบๆ ถึง 80 กิโลเมตรเลยทีเดียว เป็นการวอร์มเครื่องก่อนเจาะอ็อกแลนด์ในมุมต่างๆ

***ท่องเที่ยวกับทัวร์ท้องถิ่น 

Photo by: everythingnewzealand

บน Sky Tower นอกจากจะมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้นั่งชิลมองเมืองและท้องทะเลอันระยิบระยับ โดยวิวจะค่อยๆ หมุนไปอย่างช้าๆ แล้ว หากคุณอยากปลุกความกล้าในตัวเองขอให้ลองออกไปเดินนอกหอคอยที่ระดับความสูง 192 เมตรกับกิจกรรม Sky Walk ซึ่งเป็นการเดินบนระเบียงรอบหอคอยที่กว้างเพียง 1.2 เมตรโดยมีสายสลิงคล้องไว้กับตัว แต่ถ้านั่นยังธรรมดาไป เราขอแนะนำ Skyjump ที่ระดับความสูงเดียวกัน เป็นการโดดลงในแนวดิ่ง (ใช้ขาลง) ที่จะทำให้อะดรีนาลีนแตกตัวอย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต

Photo by Edvinas Bruzas 

เมื่อมองจากมุมสูงคุณจะเห็นได้ว่าอ็อกแลนด์เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สำคัญ ฉะนั้นเราจะได้เห็นการเดินทางด้วยเรือเฟอรี่ไปยังเกาะใหญ่ต่างๆ ส่วนในเมืองการเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้นสะดวกสุดก็คือรถบัสและรถแท็กซี่ แต่หากสถานที่เที่ยวไม่ไกลกันมากเราแนะนำให้คุณเดินดื่มด่ำความสดชื่นมากกว่าเพราะที่นี่อากาศดีทั้ง 4 ฤดู ไฮซีซั่นจะเป็นฤดูร้านช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิอยู่ที่ 20 - 25˚C ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ มีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิจะไล่ตั้งแต่ 7-19 ˚C ฤดูหนาว มิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิ 2-13 ˚C ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน-พฤศจิกายน 7-17 ˚C  (แต่มาหน้าร้อนดีสุดเพราะมีกิจกรรมให้ทำเพียบ)

Photo by: newzealand.com

สถานที่หนึ่งที่จะทำให้คุณรู้จักอ็อกแลนด์ได้ดีสุดในเวลาอันสั้นก็คือพิพิธภัณฑ์ Auckland War Memorial Museum อยู่ติดกับสวนสาธารณะ Auckland domain แม้ภายนอกจะดูจืดชืดจากรูปทรงทื่อๆ ของอาคารแต่รับรองได้ว่าภายในจัดแสดงได้อย่างครบถ้วนความเป็นอ็อกแลนด์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเลยทีเดียว และหากเมื่อชมภายในพิพิธภัณฑ์จนหนำใจแล้ว ขอให้เดินเล่นต่อในสวน Auckland domain ซึ่งนอกจากคุณจะได้พบกับพันธุ์ไม้แปลกตาและประติมากรรมมีชื่อระดับชาติแล้ว หากมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณจะได้พบกับเทศกาลการเฉลิมฉลองทั้งจากท้องถิ่นและต่างประเทศมากมายทั้งละครเวที การแสดงดนตรี การเต้น และจัดแสดงศิลปะแบบทัศนศิลป์ (ใช้บริการ LINK Bus และ Explorer Bus มาถึงที่นี่ได้ง่ายๆ)

Photo by Henry McIntosh 

และหากคุณเริ่มติดใจการเดินท่องธรรมชาติ ไฮไลต์อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ Mount Eden ปากปล่องภูเขาไฟโบราณที่ระดับความสูง 196 เมตร ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองเพียง 5 กิโลเมตร ซึ่งหากมองแค่รูปจะรู้สึกว่าเล็กๆ แต่ถ้ามาสัมผัสด้วยตนเองนั้นจะรู้ถึงความยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมวิว 360 องศาทั่วเมืองเหมาะกับการถ่ายรูปอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเย็นที่ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง  

Photo by Tim Marshall 

แต่นั่นก็ยังไม่ดีพอเท่ากับการนั่งเรือเฟอรี่ไปยังเกาะ Waiheke Island เพราะเพียงแค่ราว 40 นาทีที่ลมทะเลปะทะใบหน้านั้นคุณก็จะได้พบเกาะในฝันอันสวยงามราวกับหลุดมาจากนิยายโรแมนติก สวรรค์แห่งคนรักไวน์โดยแท้เพราะละลานตาไปด้วยไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ชั้นเลิศที่จะพาคุณล่องลอยไปกับรสชาติอมฤตและอาหารชั้นเลิศยังร้านประจำถิ่น นั่นจึงเหมาะมากที่จะค้างสักหนึ่งคืนสำหรับคู่รักที่อยากให้ความทรงจำในอ็อกแลนด์ถูกเขียนขึ้นอย่างงดงาม

Photo by: localist

และถ้าหากประวัติศาสตร์การเดินทางของคุณจะเขียนขึ้นด้วยกระเพาะอาหารเราขอแนะนำ Auckland Fish Market  ซึ่งตั้งอยู่ถนน Jellicoe ใกล้ Freemans Bay ที่นี่คุณจะได้พบกับอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงด้วยหลากหลายกรรมวิธีแห่งชนชาติตั้งแต่แบบอังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาเลียน หรือแม้แต่ไทยก็มีให้ลิ้มลองกันหลากหลายเมนูความสด  แต่หากเจาะลึกไปอีกให้ไปลองแวะไปที่ La Cigale French Market ซึ่งอยู่บนถนน Georges Bay Road ตลาดเล็กๆ ที่รวมเอาความสนุกของรสชาติแบบฝรั่งเศสมาไว้ในที่เดียวกัน หรือถ้าชอบความสดในแบบ Farm to Table ในเช้าวันอาทิตย์ให้คุณลองแวบไปเดินที่ Clevedon Village Farmers Market บนถนน Monument Road คุณจะได้เห็นเกษตรกรชาวอ็อกแลนด์และครอบครัวมาเปิดร้านขายพืชพันธุ์และปรุงอาหารจากไร่ของพวกเขาเองในราคาที่ไม่แพงเลยสำหรับความสดระดับนี้ 

จริงๆ แล้วอ็อกแลนด์ยังมีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ ชายหาด หมู่เกาะ รวมไปถึงสวนสนุก สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และแหล่งช็อปปิ้งอีกหลากหลายให้คุณได้สำรวจและค้นพบประการณ์ใหม่ๆ ในทุกวัน ฉะนั้นระยะเวลาในการเดินทางมายังเมืองท่าอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานนี้ เราขอแนะนำว่าควรใช้เวลาอย่างน้อย 4-5 วันในการทำความความรู้จักกัน แล้วค่อยเอ่ยภาษาเมารีคำว่า “ka kite ano” หรือ “จนกว่าจะพบกันใหม่”

How to get there :

การบินไทย มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ - โอ๊คแลนด์ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง

สายการบิน China Eastern Airline ต่อเครื่องบิน 1 ครั้ง ใช้เวลา 23 ชั่วโมง 20 นาที ในราคาย่อมเยากว่า

Where to Stay :

SO/Auckland https://www.so-auckland.com/

Peonamo Hotel https://www.poenamohotel.co.nz/

The Devereux http://devereux.co.nz/#

The Quality Hotel Lincoln Green https://www.lincolngreen.co.nz/index.html

Ibis Budget Auckland Airport https://www.accorhotels.com/th/hotel-7865-ibis-budget-auckland-airport/index.shtml

Travel Tips

ใครจะเตรียมอาหารไปทานระหว่างพักที่อ็อกแลนด์แนะนำว่าให้เป็นอาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปที่มีฉลากเป็นภาษาอังกฤษรวมอยู่ด้วย พร้อมกับทำรายการอาหารแต่ละชนิดเป็นลิสต์บนกระดาษไว้ว่ามีอะไรบ้าง แยกกระเป๋าบรรจุ เพื่อลดความยุ่งยากในพิธีตรวจเข้าเมือง

การเดินทางในอ็อคแลนด์นั้นมีทั้งรถไฟ รถบัส เรือเฟอรี่ รถแท็กซี่ และ Uber ฉะนั้นแล้วเพื่อการจ่ายเงินที่คล่องตัวให้ซื้อ AT HOP Card ติดไว้ (วิธีซื้อตามนี้เลย https://pantip.com/topic/36944567)

แท็กซี่ที่อ็อกแลนด์มีราคาค่าโดยสารที่แพงเอาเรื่อง ฉะนั้นหากเรียก Uber ได้จะประหยัดกว่า

คนชอบขับรถแนะนำให้เช่ารถขับ เพราะนอกจากราคาจะไม่แพงกว่าบ้านเราเท่าไหร่นัก (รถเก๋ง 4 ประตูราว 1,700 บาทต่อวัน เช็คที่ www.rentalcars.com) คุณยังออกสำรวจอ็อกแลนด์ได้หลากหลายแนวในวันเดียว

 

travelbaradmin's picture

ABOUT THE AUTHOR

POSTED BY travelbaradmin | Sunday, July 14, 2019 - 11:56


admintator for web Travellerbar.com