POSTED BY TRAVELBARADMIN | Sunday, November 17, 2019 - 08:44
หลวงพระบาง....หลายคนชื่นชอบฤดูหนาวเพราะจะได้สัมผัสกับอากาศชวนโรแมนติก หนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์ในทุกฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว และเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเราคือเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาวนั่นเอง ซึ่งความโดดเด่นด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและเชื่องช้า กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่คนยุคนี้ถวิลหายิ่งนัก ที่หลวงพระบางในฤดูหนาวยังคงมีสายหมอกให้สัมผัส มีไอเย็นมากระทบกาย มีธรรมชาติที่ยังเขียวขจี และมีวัฒนธรรมดั้งเดิมในแบบวันวานให้เราได้รื่นรมย์ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ใครหลายคนอยากไปเยือนเมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
หลวงพระบาง เมืองริมโขง ประเทศลาว
หลวงพระบางได้รับการขี้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เมื่อปี พ.ศ.2538 ซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของเมืองเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้าง มีชื่อเดิมว่า “เมืองซวา” จนมาถึงปี พ.ศ.1300 ขุนลอ องค์ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นเมือง “เชียงทอง” ซึ่งต่อมาได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านศึกสงคราม จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระเจ้าโพธิสาลราชเจ้า ได้อาราธนา “พระบางพุทธลาวัลย์” หรือ “พระบาง” พระพุทธรูปสำริดปางห้ามสมุทร สูง 2 ศอก 7 นิ้ว (ประมาณ 1.14 เมตร) ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่เมืองนครหลวงแห่งอาณาจักรขอม มาไว้ที่เมืองเชียงทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ “หลวงพระบาง” มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันองค์พระบางประดิษฐานอยู่ที่หอพระบาง พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง
วัดเชียงทอง หลวงพระบาง
พอมาถึงยุคล่าอาณานิคม ประเทศลาวก็ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี พ.ศ.2437-2492 ซึ่งเป็นระยะเวลานานพอที่จะทำให้วัฒนธรรมตะวันตกหลายอย่างแทรกซึมหยั่งรากลึกลงไปในดินแดนแห่งนี้ ที่เห็นได้ชัดก็คือสถาปัตยกรรมกลิ่นอายโคโลเนียลผสมผสานวัฒนธรรมลาวซึ่งกลายเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว ไปจนถึงเบเกอรีและตำรับอาหารฝรั่งเศสที่ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ซ่อนตัวอยู่ในหลวงพระบาง
น้ำตกตาดกวางสี
สถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่ต้องห้ามพลาด และถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวงพระบาง ได้แก่ วัดเชียงทอง พระราชวังหลวงพระบาง น้ำตกตาดกวางสี พระธาตุพูสี ตลาดยามเช้าใจกลางเมือง ถ้ำปากอู และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดคือการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้า ที่ทำให้ใจสงบและทำให้เราได้สัมผัสวิถีแห่งหลวงพระบางอย่างแท้จริง
การท่องเที่ยวในหลวงพระบางนั้นไม่ยาก เพราะสถานที่หลัก ๆ อยู่ในตัวเมือง แค่มีสองขากับรองเท้าที่สวมแล้วเดินสบายสักคู่ หรือเช่าจักรยานสักคันก็ปั่นตะลอนเที่ยวได้ทั่วเมือง หยิบหนังสือเล่มโปรดติดมือไว้สักเล่ม แวะหากาแฟอร่อย ๆ หรือเบเกอรี่หอมกรุ่น ก็เติมสีสันวันพักผ่อนสุดโรแมนติกในวิถีสโลว์ได้เป็นอย่างดี
French Bakery & Cafe
เสน่ห์คาเฟ่ปารีเชียง
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าลาวเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสอยู่พักใหญ่ ซึ่งทำให้ประเทศนี้ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสมาหลายต่อหลายเรื่อง แล้วหนึ่งในเรื่องที่โดดเด่นมากก็คือตำรับเบเกอรรี่ ซึ่งในเมืองหลวงพระบางมีร้านขนมปังตามแบบชาวตะวันตกอยู่หลายร้าน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นสูตรอร่อยแบบต้นตำรับฝรั่งเศสเลยทีเดียว แถมคาเฟ่ยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยการผสมผสานกลิ่นอายของคาเฟ่ฝรั่งเศสเข้ากับพื้นถิ่นตะวันออกได้อย่างน่าหลงใหล มาดูกันว่ามีร้านใดให้ลองไปแวะชิมบ้าง
Saffron Coffee shop บรรยากาศริมโขง
Le Banneton Café French Bakery
Le Banneton Café French Bakery : 03/46 Sakhalin Rd., Ban Killy, Luang Prabang / ทุกวัน 06.00-18.00 น. / www.facebook.com/lebannetonluangprabang
ถ้าพูดถึงเบเกอรี่ขนมปังฝรั่งเศสแล้วไม่พูดถึงร้านนี้ก็คงไม่ได้ เพราะนี่คือร้านเก่าแก่ชื่อดังที่อยู่คู่หลวงพระบางมานานและยังคงเป็นร้านคาเฟ่สไตล์ปารีเซียงในแบบฉบับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เจ้าของร้านชาวฝรั่งเศสเคยเป็นเชฟเบเกอรี่ที่มีประสบการณ์ในฝรั่งเศสมากว่า 11 ปี และมีประสบการณ์ทำเบเกอรี่ในลาวมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ทำให้ร้านนี้คงอยู่มายาวนาน และกลายเป็น The Best Bakery in Town ในลิสต์ของสื่อต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ขนมอบที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทำสดใหม่ทุกวัน และที่สำคัญหลายโรงแรมดังในหลวงพระบางก็ยังสั่งเบเกอรีจากที่นี่ไปบริการลูกค้าของโรงแรมด้วย เมนูเด็ดห้ามพลาดเด็ดขาดก็คือเมนูธรรมดาๆ อย่างครัวซองต์นี่ล่ะ อร่อยอย่าบอกใครเชียว
Joma Bakery Café
Joma Nam Khan : Kingkitsarath Rd., Ban Wat Sene, Luang Prabang / ทุกวัน 07.00-21.00 น. / www.joma.biz
ถ้าถามว่าร้านกาแฟที่ดีที่สุดในหลวงพระบางคือร้านไหน คำตอบจากหลายแหล่งก็ยังคงยกให้ Joma Bakery Café อยู่เสมอแม้ว่าจะเปิดมานานแล้ว นอกจากบรรยากาศร้านจะตกแต่งในแบบ Modern Rustic ที่มีเสน่ห์น่านั่งแล้ว กาแฟและ เบเกอรี่สไตล์ตะวันตกที่เสิร์ฟที่นี่ก็ยังมีรสชาติเยี่ยมอีกด้วย กาแฟของร้านนี้คั่วบดและเบลนด์ในสูตรของตัวเอง แถมตั้งใจสร้างมูลค่าให้กาแฟลาวด้วยการใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกในแถบที่ราบสูงโบลาเวน (Bolaven Plateau) ทางตอนใต้ของลาว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่ร้านนี้ต้องการเป็นตัวแทนของกาแฟลาวที่มีคุณภาพและรสชาติเยี่ยมในแบบสากล กลิ่นหอมของกาแฟนั้นเข้ากันได้ดีกับเบเกอรี่โฮมเมดอร่อยๆ ที่ทำกันสดใหม่ทุกวัน สำหรับเมนูยอดฮิตที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านตลอดกาลก็คือ Bagel Egger ตำรับ The New Yorker กรอบนอกนุ่มในที่รับรองว่าเด็ดจริงตามคำร่ำลือ
Zurich Bread Factory & Café : Sakhalin Rd., Luang Prabang / ทุกวัน 06.00-21.00 น. / www.zurichbread.com
Local Craft Cuisine
ตำรับลาวอันประณีต ปรุงรสแบบท้องถิ่น รสชาติแบบสากล
เรื่องอาหารที่หลวงพระบางก็โดดเด่นไม่แพ้เบเกอรี่เลยทีเดียว นอกจากตำรับฝรั่งเศสรวมถึงตำรับตะวันตกแท้ๆ ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ต้นกำเนิดแล้ว ตำรับอาหารที่โดดเด่นมากอีกอย่างก็คือตำรับท้องถิ่นที่มีรสชาติเฉพาะตัว ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นเฉพาะในท้องถิ่น ที่หลวงพระบางมีร้านอาหารดีๆ ซ่อนตัวอยู่มากมาย ไม่เพียงแค่รสชาติแบบดั้งเดิมเท่านั้นที่มีเสน่ห์ แต่หลายร้านก็มีการปรับปรุงรสชาติต้นตำรับด้วยกรรมวิธีการปรุงสไตล์ยุโรป กลายเป็นตำรับตะวันออกที่น่าลิ้มลองและเลิศรสแบบสากล
Tamarind
Tamarind : Kingkitsalath Rd., Ban Wat Sene, Luang Prabang / จ.-ส. 11.30-21.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) / www.tamarindlaos.com
มาถึงหลวงพระบางทั้งที ใครๆ ก็อยากลองชิมตำรับอาหารท้องถิ่นกันทั้งนั้น แต่ก็มักจะกังวลเรื่องความสะอาด ไปจนถึงผงชูรสที่ใส่เกินพอดี นั่นจึงกลายจุดขายของร้านอาหารนี้ที่มาในคอนเซ็ปต์ A Taste of Laos ซึ่งตั้งใจเสิร์ฟตำรับลาวแท้ๆ โดยเน้นความสะอาด ในบรรยากาศสบายน่านั่ง คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่ปลอดภัย มาปรุงในครัวมาตรฐานสากล ที่สำคัญทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรส เป็นตำรับอร่อยลิ้นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง เจ้าของร้านเป็นหุ้นส่วนสองสัญชาติ ชื่อ JOY NGEUAMBOUPHA เป็นชาวลาว และ CAROLINE GAYLARD เป็นชาวออสเตรเลียน ร้านนี้จึงเป็นหนึ่งในร้านอันดับต้นๆ ที่ใครแวะมาเยือนหลวงพระบางต้องห้ามพลาดที่จะมาชิม
L’ Elephant Vert
L’ Elephant Vert : Kounxoua Rd., Ban Vat Nong, Luang Prabang / ทุกวัน > Lunch 12.00-14.00 น. และ Dinner 18.00-22.00 น. / www.elephant-restau.com/elephantvert
L'Eléphant เสิร์ฟตำรับตะวันตกแบบ Fine Dining มายาวนานนับสิบปี และขึ้นชื่อว่าเป็นร้านตะวันตกที่ยอดเยี่ยมที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของหลวงพระบางเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าของร้านนั้นเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งสองคน คือ Yannick และ Gilles ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยและความสำเร็จ เดิมที Yannick ตั้งใจจะนำพื้นที่ตรงนี้มาเปิดเป็นร้านขายดอกไม้ แต่เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยกับสตรีชาวอังกฤษผู้เป็นนักเขียนด้านอาหารอย่าง Diana von Cranach ที่เคยออกหนังสือ Rawfully Good ตำรับอาหารสุขภาพในสไตล์อาเซียนอันโด่งดัง เขาจึงเกิดไอเดียใหม่เปิดเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพในสไตล์ Raw Food & Slow Cooking แทน ซึ่งเมนูทั้งหมดมาในคอนเซ็ปต์ Ethno-Botanical Vegan & Vegetarian Cuisine ที่หยิบเอาอาหารท้องถิ่นมาผสมผสานกับตำรับสากลให้เป็นตำรับสุขภาพที่สะอาดปลอดภัยและอร่อยอีกด้วย
MANDA de LAOS
MANDA de LAOS : Unit 1 Ban That Luang, 10 Norrassan Rd., Luang Prabang / ทุกวัน > Lunch 12.00-15.00 น. และ Dinner 16.00-22.30 น. / www.mandadelaos.com
หนึ่งในร้านที่มีบรรยากาศดีและมีเอกลักษณ์มากที่สุดในหลวงพระบางต้องยกให้ร้านนี้ ตัวร้านตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติ ริมสระบัวส่วนตัว 3 สระ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกไปพร้อมกัน สำหรับร้านนี้เสิร์ฟอาหารแบบ Fine Dining ในตำรับ Laotian Family Cuisine หรือตำรับลาวดั้งเดิมที่สืบทอดความอร่อยมาจากรุ่นแม่ โดยเป็นตำรับของคุณ Phiew ชาวหลวงพระบางที่ใส่ใจในการทำอาหารอย่างประณีต ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรคุณภาพชั้นดี ปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำให้รู้สึกเหมือนมาทานอาหารที่บ้านเพื่อน ที่เราได้ลิ้มความอร่อยในแบบ Homemade Cooking อย่างแท้จริง นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน ซึ่งคำว่า Manda นั้นแปลว่า “แม่” นั่นเอง Handicraft Hunter
Handicraft Hunter
หลากหลายหัตถศิลป์ถิ่นล้านช้าง
แม้หลวงพระบางจะเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อ แต่สำหรับเมืองมรดกโลกนี้อาจจะแตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวทั่วไปอยู่บ้าง ตรงที่เน้นการพักผ่อนแบบสบายๆ และการสัมผัสวิถีท้องถิ่นที่เรียบง่าย ดังนั้นเมืองนี้จึงไม่ได้มีแหล่งชอปปิงชื่อดังอันทันสมัยมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ แต่จะว่าไม่มีแหล่งชอปปิงเลยก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะในเมืองหลวงพระบางมีร้านขายสินค้าดีๆ คุณภาพระดับสากลมากมาย เพียงแต่สินค้าขึ้นชื่อของร้านส่วนใหญ่จะเป็นงานหัตถกรรมท้องถิ่นอันประณีตเสียมากกว่า ซึ่งหลวงพระบางถือได้ว่าเป็นแหล่งหัตถกรรมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เป็นรองใคร
Ock Pob Tok
The Boutique by Ock Pob Tok : 73/5 Sakhalin Rd., Luang Prabang / ทุกวัน 08.00-20.00 น. / www.ockpoptok.com
ชื่อร้านนั้นมาจากภาษาถิ่นที่เป็นความเข้าใจเดียวกับของไทยคือ “ออก-พบ-ตก” ซึ่งก็มาจากคำว่า “East Meet West” นั่นเอง โดยร้านนี้เกิดขึ้นจากการมาพบกันของสองหุ้นส่วนจากสองซีกโลกอย่าง Veomanee Duangdala ชาวลาว และ Joanna Smith ชาวอังกฤษ อดีตช่างภาพนิตยสาร โดยเริ่มต้นกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา เสน่ห์ของ Ock Pob Tok คือการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยเฉพาะการทอผ้าของหลวงพระบาง มาผสานกับการออกแบบตลอดจนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในแบบตะวันตกที่ได้มาตรฐาน ออกมาเป็นหัตถศิลป์ที่มีรูปแบบและเสน่ห์เฉพาะตัว แถมยังสัมผัสได้ถึงสินค้าพื้นถิ่นที่มาจากหลวงพระบางอีกด้วย
Ma Te Sai
Ma Te Sai : Kingkitsarath Rd., Luang Prabang / ทุกวัน 08.30-20.30 น. / matesai.co
ชื่อร้านนี้เป็นภาษาอังกฤษที่ทับศัพท์ภาษาลาวท้องถิ่นเช่นกัน ซึ่งมาจากคำว่า “มาแต่ไส” หรือที่แปลเป็นไทยว่า “มาจากไหน” นั่นเอง โดยชื่อร้านนั้นบ่งบอกคอนเซ็ปต์ของการทำร้านนี้อย่างชัดเจนภายใต้แนวความคิดที่ว่า From the Village, For the Village ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะเน้นการผลิตในแบบมาตรฐานสากลที่ผสมผสานกับหัตถกรรมท้องถิ่นอย่างลงตัว โดยจะเป็นการที่ดีไซน์เนอร์เข้าไปคลุกคลีทำงานร่วมกับคนท้องถิ่นเพื่อคงอัตลักษณ์ของงานหัตถกรรมหลวงพระบางไว้ดังเดิม สำหรับเจ้าของร้านนี้ คือสามหุ้นส่วนต่างเชื้อชาติอย่าง Emi Weir ชาวออสเตรเลียน, Clem Pabion ชาวฝรั่งเศส และ La Bounmy ชาวลาว ที่ร่วมกันพัฒนาร้านนี้ขึ้นมาบนพื้นฐานของการใส่ใจงานหัตถกรรมโบราณ แต่อยากนำเสนอจิตวิญญาณการออกแบบผลิตภัณฑ์แบบสากลยุคใหม่ ทำให้สินค้าที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าสนใจทีเดียว
Kopnoi
Kopnoi : 148 Kingkitsarath Rd., Luang Prabang / ทุกวัน 07.00-19.00 น.
ชื่อร้านนั้นมาจากภาษาถิ่น “กบน้อย” ซึ่งก็หมายถึงกบตัวเล็กๆ เหมือนในภาษาไทย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลที่สื่อถึงความสมดุลของสิ่งแวดล้อม แถมยังสะท้อนตัวตนของงานหัตถศิลป์ภายใต้แบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะกบน้อยจะเน้นกรรมวิธีการผลิตหัตถกรรมต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การย้อมด้วยกรรมวิธีตามธรรมชาติ การทอด้วยมือแบบดั้งเดิม ไปจนถึงการใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตราย นั่นจึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของที่นี่นอกจากจะมีความเป็นสากลแล้วยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของภูมิปัญญาหลวงพระบางอย่างเต็มเปี่ยมด้วย
Winter and Happiness Moment
ความสุขในฤดูหนาว
หน้าหนาวเป็นฤดูท่องเที่ยวหลวงพระบางที่ใครหลายคนชื่นชอบมากที่สุด อากาศที่เย็นสบาย ทำให้เมืองที่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 1,300 เมตร ไปด้วยรอยยิ้มและมีชีวิตชีวาทั้งเมืองเลยทีเดียว แล้วในฤดูนี้ก็มีกิจกรรมพิเศษเฉพาะฤดูกาลเกิดขึ้น เรียกได้ว่าความสุขนี้มีให้สัมผัสได้เฉพาะในฤดูหนาวที่หลวงพระบางเท่านั้น
Signature Sleep
เอนกายพักผ่อนในรูปแบบเฉพาะตัว
สิ่งที่โดดเด่นระดับโลกอีกอย่างของหลวงพระบางก็คือที่พักท่ามกลางบรรยากาศเมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์ โดยเฉพาะที่พักในรูปแบบ Boutique Luxury ที่น่าสนใจด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล รวมถึงมีแบรนด์ดังระดับโลกที่มาเปิดบริการในเมืองหลวงพระบาง และยังสร้างเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย
Sofitel Luang Prabang
Sofitel Luang Prabang : Ban Mano 0600 Ban Mano Rd., Luang Prabang,/ www.sofitel-luangprabang.com
หนึ่งในที่พักที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวและตำนานที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือโรงแรมในบรรยากาศ Modern Classic นี้ ซึ่งที่นี่เป็นการหยิบเอาคุ้มเจ้านายโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปี แถมยังเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มาบูรณะใหม่ให้เป็นโรงแรมที่ยังคงเสน่ห์ของคุ้มเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งอาคารในกลิ่นอายโคโลเนียลยุคใหม่ที่เรียบหรูแต่มีเสน่ห์ความอลังการตามสไตล์อาคารฝรั่งเศสยังได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี รวมถึงเรือนไม้โบราณหลายหลังที่อยู่โดยรอบบริเวณก็ยังมีการอนุรักษ์ไว้พร้อมบรรยากาศร่มรืนภายใต้อาณาจักรอันแสนจะเงียบสงบและเป็นส่วนตัวนี้เช่นกัน ภายในห้องพักตกแต่งตามแบบ Modern Classic เช่นเดียวกับลักษณะของสถาปัตยกรรม ส่วนอีกโซนที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างมากก็คือเรือนกระโจมกลางแจ้งที่เป็นส่วนรับประทานอาหารตลอดจนนั่งเล่นรับลม และปรับเป็น Governor’s Grill ร้านอาหารที่เสิร์ฟอย่างมีระดับ
Rosewood Luang Prabang
Rosewood Luang Prabang : Nauea Village, Luang Prabang,/ www.rosewoodhotels.com/en/luang-prabang
นาทีนี้ถ้าจะพูดถึงที่พักหรูหรามีระดับในหลวงพระบางคงต้องยกให้กับที่นี่ เพราะหลังจากที่มีชื่อติดอยู่ในลิสต์ของ THE HOT LIST ปี 2018 ที่จัดอันดับโดยสื่อทรงอิทธิพลอย่าง Condé Nast Traveler ก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาลองสัมผัสเสน่ห์ของความหรูหราท่ามกลางธรรมชาติของหลวงพระบางในทันที นอกจากห้องพักในรูปแบบแคมป์วิลล่าหรูหราท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีแล้ว ที่พักแห่งนี้ก็ยังมีน้ำตกไหลผ่านกลางโรงแรมที่กลายเป็นธรรมชาติส่วนตัวอันโดดเด่นที่แตกต่างอีกด้วย อันที่จริงการได้ชื่อว่าอยู่ในเครือ Rosewood ก็การันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดี แต่อีกหนึ่งความประณีตที่ทำให้ที่พักที่นี่มีเสน่ห์และโดดเด่นระดับสากลยิ่งขึ้นก็คือการเชิญดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Bill Bensley มาเป็นผู้ออกแบบและตกแต่ง จนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมท้องถิ่นกับความคลาสสิกในแบบตะวันตก รวมถึงความประณีตอีกมากมาย ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกพื้นที่ตามปรัชญาของโรสวู้ดที่ว่า A Sense of Place ซึ่งบรรจงสะท้อนวิถีชีวิตตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เข้ากับบริการมาตรฐานระดับสากล
Satri Boat Secret Cruise
Satri Boat Secret Cruise / www.satrihouse.com
หลังจากที่ Satri House สร้างชื่อเสียงด้วยกันเป็นที่พักในรูปแบบ Boutique Hotel ของหลวงพระบางที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาพักใหญ่ แบรนด์นี้ก็ขยับขยายไปเปิดบริการที่พักรูปแบบใหม่เพิ่มเติมกับที่พักสไตล์เรือสำราญล่องโขงอันทรงเสน่ห์ แถมยังเป็นที่พักบนเรือแห่งเดียวในหลวงพระบางที่ไม่เหมือนใคร บนเรือลำหรูนี้มีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง ที่ให้เปิดให้แขกได้ล่องเรือชมความงดงามของธรรมชาติตลอดลำน้ำโขงกันแบบค้างคืน พร้อมดาดฟ้าที่เปิดเป็นพื้นที่ดินเนอร์เสิร์ฟตำรับอร่อยที่ปรุงอย่างประณีต พร้อมจุดแฮงค์เอาท์สบายๆ รับลมชมวิวยามเย็น พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก
How to get there :
เครื่องบิน
When to go :
หลวงพระบางมีภูมิอากาศคล้ายกับจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ด้วยความที่ธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ จึงมีส่วนทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองนี้อยู่ในระดับต่ำกว่าและมีอากาศบริสุทธิ์แถมเย็นสบายกว่า รวมถึงยังมีลมหนาวให้คุณได้สัมผัสอีกด้วย โดยฤดูกาลต่างๆ แบ่งเป็นช่วงเวลาได้ประมาณนี้
ศูนย์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว
ABOUT THE AUTHOR
POSTED BY travelbaradmin | Sunday, November 17, 2019 - 08:44
admintator for web Travellerbar.com
POSTED BY travelbaradmin | Wednesday, January 03, 2024 - 15:18
Aurora Australis Tasmania
LEAVE A COMMENT