Anywhere Travels

Ljubljana It’s only LOVE Slovenia

POSTED BY TRAVELBARADMIN | Saturday, October 12, 2019 - 11:26

รักนี้มีเพียงที่นี่... ลูบลิยาน่า

มีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นในโลก ที่ในชื่อของประเทศมีคำว่า “รัก” –LOVE อยู่ ประเทศนั้นคือประเทศอะไรเอ่ย

บอกใบ้ว่าเป็นประเทศในยุโรป เคยเป็นคอมมูนิสต์ เพิ่งเปิดประเทศไม่นาน การท่องเที่ยวจึงยังไม่บูมมาก ในเมืองหลวงเพิ่งเริ่มมีโรงแรมบูทีคเก๋ๆและบาร์เท่ๆ ผสมผสานในตัวเมืองเก่าที่มีอาคารเก่าอันสวยงาม เป็นสูตรลงตัวของทริปประวัติศาสตร์วัฒนธรรมช่วงวันหยุดสั้นๆ ที่ได้แถมกินดื่มเที่ยวอย่างเก๋ร่วมสมัย ที่สำคัญยังไม่มีนักท่องเที่ยวรู้ความลับนี้มาก เมืองจึงยังไม่ท่วมล้นแน่นขนัดไปด้วยคน และยังไม่กลายเป็นท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์มากนัก ราคาร้านอาหารโรงแรมสินค้ายังไม่แพง นี่มันฝันของนักท่องเที่ยวเทรนด์เซ็ตเตอร์ฮิปเก๋ผู้นิยมจุดหมายไม่เกร่อโดยแท้ น่าเที่ยวเป็นที่สุด ที่ไหนกันนะ เฉลยคือ Slovenia ประเทศเดียวในโลกที่มีรัก คำว่า LOVE อยู่ในใจกลางชื่อ

กลางใจเมือง Liublijana มีอาคารในสไตล์บาโร้ก อาร์นูโว ผสมผสานกัน

ฉันมีจังหวะเหมาะได้เวลาสองคืนไป Weekend Getaway ที่ Ljubljana - ลูบลิยาน่าเมืองหลวงของสโลวีเนียชื่ออ่านยากแต่เพราะซะ...และความหมายก็ไพเราะและเข้ากันกับชื่อประเทศด้วย เพราะลูบลิยาน่าแปลว่า “ผู้ซึ่งเป็นที่รัก” แค่ฟังชื่อเมืองชื่อประเทศก็ชวนให้ตกหลุมรักเสียแล้ว

Vander Urbani Hotel, Photo by:http://vanderhotel.com/

เราไปถึงลูบลิยาน่ายามค่ำเนื่องจากเป็นทริปชิลล์ๆ ไม่อยากเหนื่อยมาก เน้นแฮงเอ้าท์เก๋ๆ แต่ยังได้ชมศิลปวัฒนธรรมด้วย ฉันจึงเลือกพักที่ Vander Urbani โรงแรมดีไซน์จัดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ในประเทศที่เปิดม่านเหล็กออกไม่นานและเจ้าของเป็นคนพื้นเมืองสโลวีเนีย โรงแรมนี้อยู่ในกรุ๊ป Design Hotels และยังได้รางวัล Best New Hotel in the World 2013 จาก Conde Nast Travelers ที่สำคัญราคาไม่แพงและอยู่ใจกลางเมืองเก่าชนิดที่กลางใจจริงๆ ไม่ใช่แค่ราคาคุย ตัวอาคารเป็นตึกทาวน์เฮ้าส์โบราณสี่ห้องติดกัน ดูด้านนอกไม่รู้เลยว่าข้างในทำใหม่หมดเสียล้ำสมัยสุดโต่ง มีแค่ 16 ห้องเท่านั้น เอ็กซ์คลูซีฟมากๆ

ฉันว่าจะเช็คอินเอากระเป๋าเข้าห้องแล้วรีบออกมาดริ๊งค์ริมแม่น้ำและชมบรรยากาศเมืองยามกลางคืนก่อนจะดึกเกินไป แต่พอเปิดเข้าห้องแล้วต้องเสียเวลาถ่ายรูปอย่างเมามันเพราะดีไซน์ล้ำเก๋ไปหมดเสียทุกมุม เก้าอี้สีเงินระยับเหมือนกระดาษฟอยล์ขยุ้มๆ กลางห้องมีเคาน์เตอร์กั้นใช้วางทีวีกรุกระจกสะท้อนเหมือนดิสโก้ ผนังหัวเตียงทั้งด้านบุผ้าเป็นตารางสี่เหลี่ยม ถ้าจะให้นิยามคงเรียกว่า Disco Reinterpreted “จัดความยุคใหม่ของดิสโก้” ที่เด็ดคือห้องน้ำอันแสนใหญ่เป็นแนวยาวขนานเตียงนั้นกั้นด้วยกระจกใสทั้งบาน จากเตียงนอนมองคนในห้องน้ำเหมือนดูปลาในตู้ เซ็กซี่สุดๆ แต่ถ้าใจไม่ถึงก็รูดม่านปิดได้เหมือนปิดม่านโรงละคร การเลือกมาพักที่โรงแรมนี้จึงช่างสะท้อนความอารมณ์เป็นลูบลิยาน่าได้ดีที่สุด นั่นคือสมดุลระหว่างอดีตที่ยังยึดรักปักใจอยู่ กับการมองไปในอนาคตข้างหน้าและแสวงหาสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา ตามที่เจ้าของโรงแรมพูดไว้ว่า “In love with the old, constantly seeking the new.”

บรรยากาศยามค่ำคืนที่ไม่หลับไหลบนฝั่งแม่น้ำดานูบ

แค่ก้าวออกมาจากประตูโรงแรมก็ถึงถนนปูหินในบรรยากาศเมืองเก่าอาบแสงไฟทองมลังเมลือง แต่ขัดแย้งอย่างลงตัวด้วยบาร์เก๋ไม่แพ้ลอนดอน ปารีส นิวยอร์กเรียงรายไปทั้งสองฝั่งแม่น้ำ Ljubljanica ที่ไหลผ่าผ่านเมือง ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง โต๊ะเก้าอี้วางกลางแจ้งริมน้ำให้เอกเขนก บาร์ส่วนมากเป็นบาร์สมัยใหม่ ดริ๊งค์สารพัดมีให้เลือกไม่ว่าจะค็อกเทลมาตรฐาน ค็อกเทลแบบครีเอทีฟ ไวน์หรือเบียร์ท้องถิ่น ถนนสองฝั่งแม่น้ำนี้เป็นถนนคนเดินเท่านั้น มีสะพานข้ามถึงกันได้เป็นระยะๆ เทียนตามโต๊ะอาหารและไฟสลัวจากบาร์ต่างๆ ส่องสะท้อนพื้นหินทางเดินเป็นมันแลดูสวยขลังจับใจ ยิ่งเห็นพริ้วน้ำในแม่น้ำระริกล้อ และยอดโดมของอาคารเก่าที่ถูกไฟสีทองส่องลอยสูงแข่งกับพระจันทร์บนฟ้าด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่าโรแมนติกสุดใจ จะบอกรักใครมาที่นี่บรรยากาศไม่แพ้ปารีสเลย ส่วนฉันนั้นได้โซฟาริมน้ำนั่งชมวิวเมืองเก่า ลมพัดเย็นๆใจ ดนตรีแจ๊สแผ่วมาเบาๆจากในร้าน สั่งรัมฮาวาน่ามาแล้วเลยอดจุดซิการ์ไม่ได้ แค่ชั่วโมงแรกก็หลงรักลูบลิยาน่าสมชื่อเมืองเสียแล้ว

สารพัดอาหารเช้าในโรงแรม

ตื่นเช้ามากว่าจะออกไปเดินเล่นชมเมืองได้ก็สายอยู่ อาหารเช้าจัดเต็มเลิศอลังการของโรงแรมนั่นเองที่ทำเรื่อง ผลไม้สดๆ โยเกิร์ตโฮมเมด สารพัดจานเย็นจานร้อนที่จัดวางอย่างสวยเก๋ไม่หลุดคอนเซ็ปต์งานดีไซน์ เป็นโต๊ะบุฟเฟต์เช้าที่สวยที่สุด ทำให้เราต้องเดินตักเติมหลายรอบกว่าปกติ ทั้งอร่อยแบบมีคุณภาพทั้งสวยงามเจริญอารมณ์ อาหารตาอาหารใจไม่มีกั๊ก โรงแรมนี้จึงได้ดาวไปเต็มใจ หลงรักอีกเหมือนกัน

ตลาดนัดวันอาทิตย์ย่านคนเดิน

ออกเดินชมเมือง ซึ่งจุดสำคัญต่างๆใจกลางเมืองก็อยู่รอบๆ โรงแรมนี่เองและเป็นย่านถนนคนเดินอย่างเดียว ฉันเป็นโรคชอบเดินตลาด ที่นี่มีตลาดเป็นจุดเด่นของเมืองเสียด้วย โชคดีวันที่ไปเป็นวันอาทิตย์จึงยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งตลาดปกติที่ขายของกินของจุกจิกชาวบ้านทำเอง มีตลาดนัดดอกไม้ผลไม้ และตลาดนัดของเก่าวันอาทิตย์ที่ขึ้นชื่อ คนมาเดินเที่ยวมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนในเมือง แดดจ้าฟ้ากระจ่างอากาศสดใสเป็นใจ วณิพกร้องเพลงแสดงกลเรียกแขก รอบตัวเป็นบรรยากาศเมืองเก่า แม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง สองฝั่งบ้านเรือนสวยงาม เป็นการเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมที่เรื่อยๆมาเรียงๆ สบายใจสบายกายไม่ต้องแก่งแย่งกันเที่ยวหรือวุ่นวายรถรา เมืองเล็กๆขนาดกำลังดีเที่ยวได้ทั่วครบทุกรสชาติ เหมาะกับเป็นทริป Weekend Getaway หนีเมืองวันสุดสัปดาห์มากๆ

อาคารเป็นสไตล์บาโรค อาร์ตนูโว และสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยผสมผสานกันอย่างลงตัว

ตัวเมืองลูบลิยาน่านี้เป็นเมืองเก่าที่มีสถาปนิกดังคือ JozePlecnik ออกแบบสร้างตึกสำคัญๆอยู่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเขานี่แหละคือคนที่ออกแบบเมืองแห่งความรักนี้จนออกมาสวยงามจนน่าถ่ายรูปไปทุกมุม อาคารเป็นสไตล์บาโรค อาร์ตนูโว และสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยผสมผสานกันอย่างลงตัว และยังมีธรรมชาติของสวนสาธารณะและป่าอยู่ในเมือง เดินเล่นเที่ยวชมได้อย่างเพลิดเพลิน

Ljubljana Castle, Photo by: https://www.visitljubljana.com

เมืองเก่านั้นตั้งอยู่ฝั่งทางตะวันออกของแม่น้ำมี Town Hall เป็นศูนย์กลางของเมืองให้เริ่มตั้งต้นเดินชมไปจนถึงตลาดและถนนคนเดิน และยังมี Ljubljana Castle ที่สูงเด่นเป็นสง่าบนเนิน Castle Hill อันถือเป็นไฮไลท์หลัก ต้องขึ้นไปชมและมองลงมาเห็นวิวเมืองเก่าในมุมกว้าง ส่วนทางตะวันตกของแม่น้ำมีอาคารสำคัญหลายแห่ง แต่ก่อนจะข้ามไปต้องเดินชมสะพานหลายสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำเป็นช่วงๆ ก่อน เช่น Cobbler Bridge ถัดมาคือ Triple Bridge ที่แปลกตา เพราะแบ่งแฉกเป็นสามแยก หรือ Dragon Bridge ที่มีรูปปั้นมังกรสัมฤทธิ์ที่หัวสะพาน ว่ากันว่า ถ้ามีสาวพรหมจรรย์เดินผ่านเจ้ามังกรนี้ก็จะกระดิกหางไปมา จริงไม่จริงต้องลองไปยืนเฝ้าดู แต่วันนั้นมีหญิงสาวผ่านตั้งเยอะฉันก็ไม่เห็นมันกระดิกหางเลยแม้แต่ครั้งเดียว

Triple Bridge, Photo by: https://www.visitljubljana.com

Dragon Bridge ทรูปปั้นมังกรสัมฤทธิ์ที่หัวสะพาน

ข้ามมาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเดินชมอาคารอันสวยงามทั้งหลายจากภายนอกที่ชวนให้ถ่ายรูปไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ Church of Mary’s Annunciation ลานกว้างจุดเชื่อมต่อถนน Preseren Square ไล่ต่ำลงมา Congress Square และ Slovene Philharmonic ลูบลิยาน่านี้ขึ้นชื่อและภูมิใจในด้านศิลปะการแสดงและดนตรีของเขามาก

สถาบันดนตรีฟิลฮาร์โมนินิกของเขานี่ถือเป็นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปทีเดียว, Photo by https://www.visitljubljana.com

สถาบันดนตรีฟิลฮาร์โมนินิกของเขานี่ถือเป็นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปทีเดียว ลูบลิยาน่ายังเป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาในเมืองถึงเกือบห้าหมื่นคน ทำให้เมืองนี้มีจิตวิญญาณสดใสของคนรุ่นใหม่อายุน้อยแม้จะเป็นเมืองเก่า มหาวิทยาลัยนี้มีแผนกศิลปะถึงสามคณะ เราจึงเห็นว่า ร้านค้าคาเฟ่หรือบาร์ต่างๆ มีความเป็น “ติสต์”แทรกอยู่มากมายอย่างน่าแปลกใจ ฉันเจอร้านหนังสือเล็กจิ๋วที่ติสต์สุดโต่ง เข้าไปเดินไม่กี่ก้าวก็ทั่วร้าน เหมือนจะมีหนังสือไม่มากแต่มีครบทุกหมวดหมู่ เขาคัดหนังสือมาเด็ดๆ แบบหัวกะทิล้วนๆ เน้นปรัชญา จิตวิญญาณ ศิลปะ เป็นร้านหนังสือภาษาอังกฤษ เราได้มูรากามิมาหนึ่งเล่มและปรัชญาน่าสนใจอีกหลายเล่ม เรียกว่าหยิบเล่มไหนก็น่าซื้อไปหมด และคนขายมีความรู้มากๆ คุยเรื่องหนังสือได้ไม่จบ เวลาเห็นร้านหนังสือแบบนี้ฉันมักนึกนิยมว่า เขาไม่ได้ขายหนังสือหรอก เขาเปิดสถานที่แลกเปลี่ยนภูมิปัญญามากกว่า ทีเด็ดอีกร้านคือร้านขายซีดีที่จิ๋วแต่แจ๋วอีกเช่นกัน เพิ่งเปิดใหม่ มีสต็อกเพลงหายากเพียบโดยเฉพาะแจ๊สและบอซซาโนวาแบบตัวจริง ราคาไม่แพงถ้านับว่าเป็นอัลบัมที่หายากและไม่มีในร้านทั่วไป ฉันติดใจเอามากๆกับสองร้านนี้จนอยากกลับไปซื้อบ่อยๆ

คาเฟ่เก๋ๆในยูบลิยาน่า

ส่วนคาเฟ่เก๋ๆก็มีอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอที่เมืองนี้ ตอนขับรถเข้าชายแดนสโลวีเนียมาเห็นบ้านเรือนสไตล์ยุคคอมมิวนิสต์แล้วคิดว่าทุกอย่างคงเชยๆ ล้าหลัง ที่ไหนได้ในลูบลิยาน่านี้ถึงจะมีอะไรฮิปเก๋จำนวนไม่มากมายเท่าบ้านเรา แต่ที่มีก็สู้ได้ด้วยคุณภาพอย่างไม่แพ้เลย คงเป็นเพราะเป็นเมืองแห่งศิลปะนั่นเอง

แสดงงานศิลปะใน National Gallery

ดังนั้นต้องขอชมงานศิลป์เสียหน่อย เราเข้าไปใน National Gallery ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ National Opera and Ballet Theater งานแสดงมีไม่มากแต่น่าสนใจ เป็นงานร่วมสมัย ที่ฉันสนใจกว่าคือสถาปัตยกรรมและตัวอาคารภายใน อันพาให้เดินชมตึกรามต่างๆต่อไปอย่างไม่เหนื่อย เช่น Museum of Modern Art, National Museum of Slovenia, Church of Holy Tritiny, University of Ljubljana ไล่ย้อนกลับมาถึงริมแม่น้ำ เราเลือกร้านอาหารน่ารักกลางลานหนึ่งนั่งกินสลัดผักฤดูร้อนสดๆและพาสต้าเป็นอาหารกลางวันอาบแดดอย่างสบายอารมณ์

ห้องสมุดใต้ต้นไม้ม Photo by https://www.visitljubljana.com

สองวันสุดสัปดาห์เที่ยวชิลล์ๆในลูบลิยาน่าได้ทั่วอย่างไม่ต้องเร่งรีบ มีทุกอย่างแบบที่เมืองใหญ่ทันสมัยมี หากแต่อยู่ในขนาดที่เที่ยวได้ทั่วสบายๆ มีส่วนผสมที่ได้ทั้งอารมณ์โรแมนติกและศิลปวัฒนธรรมแบบเมืองยุโรปเก่าและเก๋ร่วมสมัยวัยเจเนอเรชั่นวาย เมืองแบบนี้มีไม่มากนัก และถ้าได้ไปเยือนทีไรฉันก็มักติดใจขอกลับไปทุกที ลูบลิยาน่าก็คงต้องกลับมาอีกเช่นกัน เขาว่าไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ Tivoli ยามใบไม้ร่วงสวยนัก แล้วยังต้องกลับมาดูดนตรี โอเปร่า ละครหรือการแสดงด้วยให้เห็นกับว่าเมืองที่มีมหาวิทยาลัยผลิตศิลปินมากมายนี้จะมีศิลปะการแสดงที่เด็ดขนาดไหน โดนเฉพาะโรงละครกลางแจ้งในช่วง Summer Festival

ก็มี “รัก” อยู่กลางใจเสียแล้วอย่างนี้จะไม่กลับมาได้อย่างไร เพราะ “รัก” เท่านั้นนะเนี่ย It’s only Love - sLOVEnia

Ljubljana map

How to Get There

ไม่มีเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงเทพและลูบลิยาน่า เส้นทางที่สั้นและราคาสมเหตุสมผลที่สุดคือไปเปลี่ยนเครื่องที่แฟรงเฟิร์ตหรือซูริคโดยลุฟทันซ่าหรือสวิสแอร์ อีกเส้นทางคือบินเตอร์กิชแอร์ไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงอิสตันบูล ราคาถูกแต่ต้องรอเปลี่ยนเครื่องนานหน่อย
หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศโดยบินไปเที่ยวยุโรปแล้วจะขับรถเที่ยวชมยุโรปไปจนถึงลูบลิยาน่าก็ได้ ระยะทางขับรถจากเวนิสแค่ 220 กม. จากเวียนนา 370 กม. จากมิวนิค 400 กม. แต่หากจะขับรถในสโลวีเนียต้องซื้อสติกเกอร์ไว้หน้ากระจกรถเป็นค่าผ่านขึ้นไฮเวย์ แต่ก็สะดวกดีไม่ต้องคอยจอดรถจ่ายเงินที่ด่าน

Where to Stay

VANDER URBANI RESORT โรงแรมสวยแบบอัลตร้าโมเดิร์นเข้าเกรด Design Hotels ที่อยู่ Krojaskaulica 6-8, 1000, Ljubljana, Slovenia www.vanderhotel.com

To know more about Slovenia

สโลวีเนียใช้วีซ่าเช็งเก้นเข้าประเทศได้ และใช้เงินสกุลยูโร

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของลูบลิยาน่าประมาณ 20 องศา กำลังสบายในฤดูร้อนช่วงเดือนกรกฎาคม และเย็นลงถึงติดลบ -2 องศาเซลเซียสในเดือนมกราคม

ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่ www.Visitljubljana.si

Story & Photos: ฟ้า บุณยะรัตเวช จาก anywhere magazine