POSTED BY TRAVELBARADMIN | Monday, October 21, 2019 - 23:12
1,000 สถานีรถไฟในโตเกียว ส่งเสริมให้ว่าที่เจ้าภาพโอลิมปิก 2020 เป็นหนึ่งในเมืองที่เดินทางสะดวกสบายสุด ใครไปเที่ยวโตเกียวจนปรุ มักมีคำถามว่า จะออกไปพักหายใจจากเมืองใหญ่ได้ที่ไหนอีกบ้าง ตัวเลือกเช่น “เอโนะชิมะ คามาคุระ และฮาโกเน่” สามเมืองเด่นที่เดินทางสะด |
|
|||
เกาะเอโนะชิมะ หนึ่งในสถานที่ออกเดทนอกเมืองโตเกียวที่ชายหญิงเดินทางมาได้สะดวก ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของทะเลโชนัน เป็นเมืองตากอากาศที่มีเสน่ห์ด้วยวิวของชายหาดที่ยาวไกลและภูเขาไฟฟูจิลูกโต ชายหนุ่มร่างกายกำยำที่บ่งบอกความฟิต ล้วนเดินทางมาเล่นเซิร์ฟกันที่นี่ และเมื่อโอลิมปิก 2020 มาถึง แถบทะเลโชนันก็จะกลายเป็นสถานที่แข่งขันของกีฬาประเภทเรือทั้งสิ้น | |||
นอกจากนี้ยังมี Candle Tower สถานที่ชมวิวในจุดสูงสุด ยิ่งวันไหนอากาศดี ภูเขานางอาย หรือ ภูเขาไฟฟูจิก็จะปรากฏเด่นเต็มสองตา เรียกได้ว่า เป็นมุมมองฟูจิซังที่ไม่เหมือนที่ใด หากสนใจอยากค้างคืน แนะนำเรียวกังที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยเมจิ ชื่อ Iwamotoro ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม เก็บรวบรวมสิ่งของซึ่งถือว่าเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การได้ชม เช่นแผนที่ตัวจริงของประเทศญี่ปุ่นสมัยก่อน โดยเรียวกังนี้สืบทอดกันมาถึงรุ่นที่ 55 ถัดจากเรียวกังก็จะเห็นผู้คนขวักไขว่ซื้อขนม ของกินเล่น โดยเฉพาะร้านทาโกะเซมเบ้ หรือ ข้าวเกรียบปลาหมึกแผ่นใหญ่ราวกระดาษ A4 จุดเด่นคือเขานำปลาหมึกตัวเบ้งชุบแป้งจากนั้นหย่อนลงไปบนกระทะร้อนๆขนาดใหญ่แล้วให้เหล็กหนาๆอัดลงไปบนตัวหมึกทั้งตัว ทำให้ได้ออกมาเป็นเซมเบ้ปลาหมึก ที่รสเค็มมัน กรอบกร้วมเคี้ยวเพลิน | |||
Keeping the Faith เมื่อพูดถึงเอโนะชิมะ ชาวญี่ปุ่นต่างเชื่อกันว่า นี่คือสถานที่โรแมนติกและศักดิ์สิทธิ์ในแง่ของความรัก เริ่มตั้งแต่ตำนานเรื่องความรักระหว่างมังกรร้ายกับเทพธิดาประจำเกาะ (Bentensama) เมื่อมังกรร้ายตัวหนึ่งชอบอาละวาดจับเด็กบนเกาะเอโนะชิมะไปกิน แต่เมื่อมังกรหนุ่มได้พบกับเทพธิดาเบนเตนประจำเกาะเข้าแล้ว เขาก็กลับตัวกลับใจกลายเป็นตำนานรักและที่มาของศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่แบ่งออกเป็นสามศาลได้แก่ ศาลเจ้าเฮซึโนมิยะ (Hetsunomiya) ศาลเจ้านากาซึโนมิยะ (Nakatsunomiya) และศาลเจ้าโอคุซึโนมิยะ (Okutsunomiya) โดยมีเทพเจ้าประจำศาล นั่นคือเทพเจ้าแห่งทะเล เทพเจ้าแห่งน้ำ และเทพเจ้าแห่งโชค หากไหว้ครบทั้งสามศาลจึงขอพรเรื่องความรักได้สำเร็จ ซึ่งศาลเจ้าสำคัญคือศาลเจ้าโอคุซึโนมิยะ มีทางเชื่อมเล็กๆให้ขึ้นไปสั่นระฆังรักแห่งมังกร (Ryuren no Kane) จุดสั่นระฆังและใช้กุญแจล็อคความรักของคู่รักไว้ด้วยกัน |
|||
Marudai Sensui บริหารอาหารกลางวันนอกจากมีเมนูปลาชิราสึแบบเซ็ต ซึ่งนำไปประกอบอาหารหลายๆ อย่างให้ได้ชิมอย่างละนิดละหน่อย เราแนะนำอีกหนึ่งความคุ้มค่าคือ Ise Ebidon ข้าวหน้ากุ้งอิเสะ เป็นเมนูยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด เพราะกุ้งอิเสะนี้เป็นกุ้งราคาสูงใช้กินเฉพาะช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ ส่วนร้านนี้จัดให้ในราคาพอประมาณ เพราะเจ้าของร้านเป็นเอเย่นต์ใหญ่ขายส่งกุ้งเอง ดังนั้นเรื่องคุณภาพรับรองเป็นหนึ่ง กุ้งอิเสะเป็นกุ้งมังกรหวาน นำมาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่นกุ้งย่างซีอิ๊ว นำมาโปะบนข้าวนุ่มๆ เชื่อว่า ถ้าได้สั่งคุณเองก็จะหม่ำจนเกลี้ยงชามภายในสิบนาทีเช่นเดียวกัน (ฤดูอร่อยมีอาหารประจำเกาะเอโนะชิมะคือปลาชิราสึ หรือ ปลาข้าวสารราดข้าว (Shirasu-don) ร้านอาหารแนะนำอยู่ตรงทางขึ้นเกาะชื่อร้าของกุ้งอิเสะคือเดือนสิงหาคม เพราะเป็นช่วงที่กุ้งเติบโตเต็มที่ทำให้รสหวาน ไม่ว่าจะทำซาชิมิ หรือย่างซีอิ๊วก็โออิชิทั้งนั้น) | |||
|
|||
|
|||
Kamakura : The Classic Trail | |||
|
|||
ออกจากเกาะเอโนะชิมะ เราเดินข้ามกลับมาตรงสะพานเชื่อมเกาะอีกครั้ง โดยเลือกเดินทางไปยังสถานีเอโนะชิมะ (Enoshima Sta.)เพื่อเริ่มต้นนั่งรถไฟแสนคลาสสิค (Enoden Line) รถไฟสายเอโนะเด็นซึ่งเก่าแก่อายุราว 100 ปี พาเราลัดเลาะเข้าตามตรอก ออกตามซอย ผ่ากลางถนน เป็นเส้นทางรถไฟแสนสนุกเหมือนได้พาคุณย่องไปหลังบ้านคนนั้นโผล่หน้าบ้านคนนี้ ชวนตื่นตาตลอดทาง หยุดแวะที่สถานีคามาคุระ โคะโคะมาเอะ (Kamakura Kokomae Sta.) สถานีรถไฟติดริมทะเลอันเป็นฉากของมังงะชื่อ ดัง Slam Dunkแต่ถึงคุณจะไม่ได้รู้จักมังงะเรื่องนี้และกลัวว่าจะไม่อินก็ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนี่คือหนึ่งในสถานีรถไฟที่มีวิวชวนอภิรมย์ยิ่ง ความสวยงามของทัศนียภาพจะทำให้คุณอยากนั่งรอที่ชานชลานี้แบบไม่ขยับตัวไปไหนเลย ขบวนรถไฟเก่าวิ่งผ่านไปโดยมีฉากหลังคือทะเลสีคราม จากตรงนี้ เดินไปอีกแค่เพียงหนึ่งอึดใจ ใกล้บริเวณ สถานีชิจิริกะฮะมะ(Shichirigahama Sta.) คือที่ตั้งของร้านอาหารชื่อดังจากฝั่งออสเตรเลีย ที่ยอมมาเปิดสาขานอกประเทศเป็นครั้งแรกโดยตั้งอยู่ในโครงการเท่ๆ ซึ่งรวมคนวัยหนุ่มสาวในชื่อว่า Weekend House Alley | |||
|
|||
ผู้คนต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อให้ได้ชิมแพนเค้กร้านดังของชาวออสซี่ “Bills” เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มแบบโฮมเมด กระทั่งโคคาโคล่าทางร้านยังทำเอง รสชาติอาจจะไม่ซาบซ่าแต่รับรองว่าไม่ทำร้ายตัวคุณ เพราะสุขภาพเป็นเรื่องแรกที่ทางร้านคำนึงถึง เมนูโดดเด่นยกให้กับ Scramble Egg แค่เห็นสีเหลืองนวลทองของไข่คนที่วางบนจานก็มั่นใจได้ว่า อร่อยชัวร์ Bills ร้านแรกในโลกเกิดจากเจ้าของร้านชอบชวนเพื่อนๆ และลูกหลานมากินอาหารที่ตัวเองปรุง ดังนั้นสุขอนามัยจึงเป็นสิ่งที่ร้านคำนึงถึง ไข่อินทรีย์ใช้เครื่องปรุงง่ายๆด้วยเกลือพริกไทย แต่ใช้เทคนิคการปรุงพิเศษจนนิวยอร์กไทม์สยังยกย่องว่าเมนูนี้คือสุดยอดเมนูอาหารไข่ของโลก มีสลัดผักหั่นวางรวมข้างๆ กินตัดเลี่ยน เมนูพาสต้าปรุงได้เข้าเนื้อใช้เส้นลิงกินี ผัดกับน้ำมันมะกอกใส่กุ้งสด เหยาะเกลือ และเลมอนก็ได้ออกมากลมกล่อมแบบพอเหมาะพอเจาะ จานเด็ดตบท้ายยกให้แพนเค้กที่หมักแป้งข้ามคืนส่งผลให้ได้แพนเค้กเนื้อหนุ่มหอม ด้านบนวางด้วยก้อนเนยผสมน้ำผึ้งกลิ่นข้าวโพด จัดการละเลงเนยให้ทั่วแล้วราดเมเปิ้ลไซรัปสักนิดก่อนตักเข้าปากเป็นอันถึงนิพพานพอดี อาหารค่อนข้างจานใหญ่ แชร์วนกันไปจะได้ชิมหลายๆอย่างค่ะ | |||
|
|||
|
|||
|
|||
สถาปนิกชื่อก้องโนริอะกิ โอคะเบะ (Noriaki Okabe) ผู้ฝากผลงานสนามบินคันไซให้เป็นที่รู้จัก เนรมิตให้การนั่งรถไฟสู่ฮาโกเน่ไม่ใช่แค่การนั่งรถไฟแสนธรรมดา เพียงหนึ่งชั่วโมงจากชินจูกุ เราจับที่นั่งบนรถไฟ Romancecar ของสายโอดาคิว โดยมีปลายทางคือฮาโกเน่ยูโมะโตะ (Hakone-Yumoto Sta.) นอกจากวิวระหว่างทางที่พาเราออกจากป่าคอนกรีตของโตเกียวแล้ว บนรถไฟ Romancecar ยังให้บรรยากาศราวกับอยู่บนสายการบินชั้นธุรกิจ ต่างจากรถไฟทั่วไปอย่างสิ้นเชิง หลังคาโปร่ง พร้อมพนักงานบนรถไฟในชุดยูนิฟอร์มแสนหรูหรา ที่นั่งจัดเอียงให้ชมวิวได้องศาชมวิวพอดี รถขบวนโรแมนซ์คาร์นี้มีด้วยกัน 4 รุ่น คือ VSE Vault Super Express, MSE Multi Super Express, EXE Excellence Express และ LSE Luxury Super Express สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยม แบบต้องจองที่นั่งกันล่วงหน้าเป็นเดือนคือ MSE โดยเฉพาะที่นั่งด้านหน้าที่เปิดวิวกว้างเป็นกระจกใส ทำให้ชมวิวเต็มสองตา ทั้งยังได้รางวัล Blue Ribbon 2009 ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของ Japan Rail Fanclub สมกับที่่่โนริอะกิรับหน้าที่สร้างสรรค์ขบวนรถไฟนี้ให้ออกมาโรแมนซ์สมชื่อขบวน | |||
How to get there | |||
จากสถานีi5waโตเกียว (Tokyo) หรือชินากาวะ (Shinagawa) นั่งรถไฟ JR Rapid Acty ฝั่งที่ไปโอดาวาระ (Odawara) ลงที่สถานีฟุจิซาวะ (Fujisawa) ใช้เวลาประมาณ 35-45 นาที จากนั้นเปลี่ยนไปนั่ง Odakyu Enoshima Line – Katase Enoshima Line ลงสถานีปลายทางคาตาเซะเอโนชิมะ (Katase-Enoshima) ใช้เวลาประมาณ 7 นาที หากขึ้นจากสถานีโตเกียวจะเสียค่าเดินทางทั้งหมด 1,126 เยน สามารถเดินจากสถานีไปที่เกาะเอโนชิมะใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งจะมีอุโมงค์ใต้ดินให้เดินลอดสี่แยกไปได้ไม่ต้องข้ามถนน | |||
Where to stay | |||
Iwamotoro Honkan เรียวกังระดับตำนาน | |||
ที่อยู่: 2-2-7 Enoshima, Fujisawa, Kanagawa Prefecture 251-0036 ญี่ปุ่น |
|||
โทรศัพท์: +81 466-26-4121 | |||
Why to travel | |||
สาวกแมวต้องต้องมา ที่นี่ประชากรแมวอิสระมีมาก และไม่กลัวคน | |||
อาหารอร่อย | |||
เป็นแหล่งที่ธรรมชาติสมบูรณ์ | |||
Relex time | |||
แช่สปาเอโนะ ออนเซ็นแบบครบวงจร https://enoshimaislandspa.com/ | |||
ABOUT THE AUTHOR
POSTED BY travelbaradmin | Monday, October 21, 2019 - 23:12
admintator for web Travellerbar.com
LEAVE A COMMENT